Travel
Comments 2

พาเที่ยวดินแดนสองทวีป เมืองอิสตัลบูล(Istanbul) ประเทศตุรกี(Turkey) 7 วัน โดยสายการบิน Egypt Air.

พาเที่ยวดินแดนสองทวีป เมืองอิสตัลบูล(Istanbul) ประเทศตุรกี(Turkey) 7 วัน โดยสายการบิน Egypt Air.

1419070020-3-o

สวัสดีทุกๆท่านครับ ผมใหม่นะครับ ชอบการเดินทางท่องเทียวตามสถานที่ต่างๆ และชอบถ่ายรูปมากๆ สำหรับรีวิวครั้งนี้เป็นครั้งแรกกับการรีวิวที่ห้องบลูแพลนเน็ต ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วย หากมีข้อมูลตรงไหน ผิดพลาดก็ขออภัย และติชมได้นะครับ ขอบคุณครับผม

และฝากเพจ เรื่องราวของการเดินทางที่เพิ่งตั้งมาเพื่อ แบ่งปัน การเดินทางของพี่น้อง 2 คนฝาแฝดที่ชอบการเดินทางครับ

https://www.facebook.com/TwinTraveller

 

ในการรีวิวครั้งนี้ผมเลือกจะพาไปเทียว อิสตัลบูล ประเทศตุรกีกันครับ เหตุผลที่เลือกไปเทียวประเทศตุรกี เมืองอิสตัลบูล ทั้งๆที่ประเทศตุรกีมีที่เทียวเยอะแยะมากมาย ทั้ง เมืองเอเฟซุส (Ephesus) , เอเฟส (Efes) มหานครโบราณของโรมัน , Cappadocia , Pamukkale และอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึง  เพราะอิสตัลบูลเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อว่า เป็นดินแดน 2 ทวีป อยู่ทั้งในทวีปเอเชียและทวีปยุโรป ก็คือเทียวเมืองเดียว ได้เทียวตั้ง 2 ทวีปแหนะ อิอิ และไฮไลท์สำคัญอย่างหนึ่งคือ ช่องแคบบอสพอรัส ซึ่งแยก ฝั่งยุโรบ และฝั่งเอเชียออกจากกันดังนั้นเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากๆ ที่จะเดินทางไปเทียวชม สักครั้งของชีวิตturkey-tourism-map

วันเดินทางของเรา ผมเลือกเดินทางไป ตอนหน้าร้อน คือช่วงกันยายน ด้วยเหตุผลที่ว่า อยากเทียวเต็มวัน ฟ้าใส แดดดีๆ ฝนไม่ตก อยากเก็บไฮไลท์ทุกอย่างในอิสตัลบูล เท่าที่จะทำได้ ในเวลา 7 วัน เพราะช่วงหน้าหนาว เวลาของวันจะหมดไปเร็ว อย่าง 4 โมงกว่าๆ ฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว เทียวกลัวไม่คุ้ม

average-temperature-turkey-istanbul

การขอ VISA
เป็นข่าวดีสำหรับคนไทย ที่การไปเทียวตุรกั ไม่ต้องขอวีซ่า !! สามารถอยู่เทียวตุรกีได้ ภายใน 30 วัน ครับ

ข้อควรรู้ก่อนไปเทียว ตรวจดูสภาพอากาศ และเวลาท้อนถิ่น

เวลาของตุรกีเทียบเท่า GMT GMT+3 ช่วงเดือนเมษายน – กันยายน (ช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง) GMT+2 ช่วงเดือนตุลาคม – มีนาคม (ช้ากว่ประเทศไทย 5 ชั่วโมง) สภาพอากาศชายฝั่งทะเลมาร์มารา อีเจียน และเมดิเตอร์เรเนียนมีภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน ฤดูร้อน ร้อนจัด ฤดูหนาวอากาศเย็นสบาอุณหภูมิจะต่ำกว่าเขตภาคเหนือเล็กน้อย แถบชายฝั่งทะเลดำอากาศอบอุ่นในฤดูร้อน อากาศเย็นสบายในฤดูหนาว และมีปริมาณน้ำฝนค่อนข้างสูง ส่วนในอนาโตเลียกลางและตะวันออก ฤดูร้อนจะมีอากาศร้อนและแห้งแล้ง ฤดูหนาวอากาศหนาวจัด ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเดินทางท่องเที่ยวตุรกีคือฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน ถึง พฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน ถึง ตุลาคม) ยกเว้นถ้าไปเล่นสกีจะไปในฤดูหนาว

ศุลกากร สกุลเงิน และอัตราแลกเปลี่ยน

ใช้เงินสกุลนิวเตอร์กิชลีร่า (New Turkish Lira : TRY) มีสกุลเงินย่อยเป็น นิวกุรุส (New Kurush : YKr)
[1 TRY = 100 YKr] 1 TRY = 25.89 บาท แต่ในตุรกีนิยมใช้เงินยูโร 1 EUR = 1.96 TRY และเงินดอลลาร์สหรัฐ 1 USD = 1.24 TRY (อัตราแลกเปลี่ยนเมื่อเดือนพฤษภาคม 2551) สามารถแลกเงินยูโร และเงินดอลลาร์ไปใช้ที่ตุรกี โดยไม่จำเป็นต้องแลกเป็นเงินลีร่า หรืออาจแลกเพียงเล็กน้อยสำหรับซื้อของตามริมทาง

1419071452-1-o

วิธีการเดินทาง

การเดินทางโดยเครื่องบิน ผมเลือก ราคาที่น่าจะถูกที่สุด โดยเลือกสายการบิน  Egypt Air ซึ่งไม่ใช่บินตรง ต้องไปต่อเครื่องที่ ไคโร ประเทศอียิปต์ครับ

Flight MS 1961
Depart 01-Dec-14 (Mon) 00:50 Bangkok (BKK)
Arrive 01-Dec-14 (Mon) 05:50 Cairo (CAI)
Flight Time 10hr 00min | Economy
Aircraft Boeing 777-300
Stops 0

Flight MS 737
Depart 01-Dec-14 (Mon) 10:05 Cairo (CAI)
Arrive 01-Dec-14 (Mon) 12:25 Istanbul (IST)
Flight Time 02hr 20min | Economy
Aircraft Boeing 737 All Series
Stops 0

฿27,259 ราคารวมหมดทุกอย่างแล้ว จองผ่านเว็ป Skyscanner

1

10658975_4648106537412_6850626793883814727_o

ส่วนตัวอาหารที่เขาบริการ รสชาติอร่อย ถูกปากคนไทยนะครับ ขาไปมีให้เลือกระหว่างไก่ กับ ปลา ส่วนตัวสายการบินนี้ อาหารประเภทไก่อร่อยมาก กินกับข้าวผัดกับเครื่องเทศอร่อยเลยทีเดียว ส่วนเครื่องบินขาไป ไม่ใช่เครื่องใหม่ครับ เก่าพอสมควรใช้งานมาเยอะเหมือนกัน จาก BKK-CAI เป็นเครื่องใหญ่นั่งสบายๆ แต่พอถึง CAI-IST เปลื่ยนเป็นเครื่องเล็ก นั่งแคบๆ หน่อย ยิ่งสายการบินนี้ ส่วนมาก เป็นแขกใช้บริการครับ จึงมีแต่คนตัวใหญ่ เบียดหน่อย ส่วนห้องน้ำ ไม่ค่อยดีเลยครับ ไม่สะอาดและก็แคบ การบริการบนเครื่องบิน ไม่ออกความเห็นนะ เพราะ ไม่ค่อยคาดหวังอะไรมากอยู่ละ สบายๆ แต่ถ้าให้ไป ตุรกีอีกคง เลือก Turkish airlines บินตรง 10 ชั่วโมง นั่ง Airbus A330 แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล ครับ

 

การเดินทางในเมืองอิสตัลบูล

istanbul card2

ตัวอย่างบัตรเดินทาง โดยสารต่างๆ ภายในเมืองอิสตัลบูล ครับ สามารถใช้ได้ทั้งรถไฟฟ้า รถบัสและเรือข้ามฟาก สามารถเติมเงินได้ตลอดครับ มีอายุเก็บรักษานาน

Istanbul_Rapid_Transit_Map_with_Metrobüs_www.whereistanbul.net_

แผนที่รถไฟในเมืองอิสตัลบูลครับ http://urll.us/pgCsRE

 

Istanbul_Metro_Logo.svg copy

ป้ายสถานีรถไฟฟ้า เวลาหา สังเกตุเจ้าป้ายตัวนี้ครับบ

12272089433_8ee36d2fe0_b

 

ภาพจาก internet
รถโดยสารประจำทาง เป็นอีกหนทางหนึ่งสำหรับการเดินทาง แต่ไม่แนะนำเพราะคนเยอะ และเมืองอิสตัลบูล คนหนาแน่นมาก รถยนต์เยอะแยะมากมาย รถติดเป็นว่าเล่น เสียเวลาเทียวครับ

 

 

Funikuler_kabatas-taksim

 

ภาพจาก internet
รถไฟฟ้าใต้ดินก็มีนะครับ แต่ไมไ่ด้ค่อยได้ใช้บริการ หากเดินทางเทียวใน แหล่งท่อเงทียว จะใช้รถไฟฟ้าบนดินซะส่วนใหญ่

 

Istanbul_T1_line_Alstom_Citadis_tram

ภาพจาก internet
รถไฟฟ้าเป็นตัวเลือกที่แนะนำเลยครับ ว่าสะดวกที่สุด ในการเดินทางท่องเทียวในเมืองอิสตัลบูล รวดเร็ว เส้นทางรถไฟฟ้าครอบคลุมทั้งเมือง แต่ช่วงเวลาเร่งด่วนคนจะเยอะมาก

 

istanbul-tunel-subway-1200x1200

ภาพจาก internet
รถรางครับ จะมีเป็นบางสถานที่ เดินทางสั้นๆ สีสันสวยงาม ต้องลองมานั่งครับ

Istanbul top tourist attractions printable map

แผนที่สถานที่ท่องเทียวในเมืองอิสตัลบูล http://urll.us/hSWDJC

S1

เมืองอิสตัลบูล โดดเด่นในเรื่องสถาปัตยกรรมออตโตมัน ศิลปะ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์และอารยธรรมที่เก่าแก่ เชื้อชาติโดยส่วนใหญ่ร้อยละ 99 นับถือศาสนาอิสลาม ที่เหลือเป็นคริสต์และยิว และประชากรที่อาศัยอยู่มีปริมาณความหนาแน่นมาก ตอนช่วงเย็นในเมืองถจะติดและวุ่นวาย เสียงดังมาก รถไฟฟ้า จะเต็มไปด้วยคน ละก็เรือโดยสาร รถยนต์จะคึกคักเป็นพิเศษ ในช่วงเลิกงาน และช่วงเช้าไปทำงาน ค่าครองชีพที่นี้ไม่สูงมาก มีอาหารให้เลือกหลากหลายแบบ คือค่าอาหารเริ่มต้นมื้อละประมาณ 100 บาท ค่าน้ำดื่มขวดละประมาณ 20 บาท ค่าการเดินทาง แท๊กซี่เริ่มต้นที่ประมาณ 38 บาท ส่วนเรื่องที่พักมีให้เลือก หลากหลายแบบ มีทั้งอพาร์ทเม้นต์ที่ เกสเฮ้าส์ โรงแรม
ไว้บริการนักท่องเทียวมากมาย

อาหารการกิน

ส่วนอาหารการกินของชาวตุรกี ในเมืองอิสตัลบูล ส่วนใหญ่จะมีเป็นเนื้อสัตว์ต่างๆ ไก่ เนื้อ เนื้อแกะ และอาหารทะเลต่างๆ และแป้ง ขนมปัง เนื่องจากเป็นประเทศมุสลิมจึงไม่มี เนื้อหมู ครับ

8

อย่างจานนี้ มีร้านไก่ย่างกลิ่นหอมมากๆ เปิดอยู่ใกล้ๆ grand bazaar  เป็นไก่ย่างย่างกับเครื่องเทศ อร่อยๆ เสริฟพร้อมกับขนมปัง สลัดผักสไตล์ตุรกี พริกหยวกยาวย่างหอม กับข้าวผัดซอยมะเขือเทศ ไก่ที่นี้รสชาติอร่อยมาก เสริฟมาจานใหญ่ มาแล้วต้องลอง!!

สิ่งหนึ่งที่สำคัญถ้าอยากไปลองอาหาร ตุรกีแบบท้อนถิ่น คือเข้าร้านอาหารแบบ ที่มีให้เลือกหลายๆแบบ เหมือนร้านข้าวแกงบ้านเรา คือ จะมีอาหารวางอยู่ เยอะแยะ และให้เราเลือกสั่งเลย ว่าเราจะเอาอะไร แล้วเขาก็จะหยิบใส่ถาดให้ สั่งน้ำ สั่งซุป สลัดผัก  เสร็จเขาก็จะคิดอาหารรวมหมดทุกอย่าง ละจ่ายเงิน มีขนมปังให้หยิบไปกินด้วย ฟรีๆ และที่สำคัญราคาไม่แพงด้วยครับ

P2 P1

ไฮไลท์สำคัญมากๆ สำหรับเรื่องกินๆ ที่ตุรกี คือ ของหวานครับ นั้นก็คือ “เตอร์กิชดีไลต์ (Turkish Delight)” หรือที่เรียกภาษาตุรกีว่า “โลคุม (Lokum)”  มีรุปร่างเป็นลูกเต๋าคลุกด้วยแป้งสีขาว เนื้อของของหวานมีลักษณะเหนียว และมีรสหวานมากกก จึงเหมาะที่จะรับประทานพร้อมกับ ชา หรือ กาแฟ ครับ

P3 P4

Baklava- บัคลาวา เป็นขนมชั้นเลิศที่เกิดมาแต่โบราณบนเส้นทางสายไหม ย่านเมืองโบราณกาเซ็นเทรปแห่งนี้ ที่นี่เป็นต้นกำเนิดและแหล่งผลิตสำคัญ เพราะส่วนประกอบหลักของบัคลาวาคือผงถั่วพิชทาชิโอ และเจ้าถั่วนี้ก็ปลูกมากที่สุดที่เมืองนี้ ส่วนประกอบอื่นๆก็เป็นแป้งสาลี น้ำตาลและน้ำมัน รสชาติหวานมัน รสหวานจะโดดมากเพื่อให้กลมกล่อมกับการดื่มชมขมๆ แบบอาหรับ ลองกินตามวิธีนี้แล้วต้องขอบอกว่ามันอร่อยติดอยู่ในความทรงจำจริงๆ

บัคลาวา มีหลายชนิด หลายรูปหลายทรง สัดส่วนของเครื่องปรุงไม่เท่ากัน มีเติมนั่นเติมนี่ในแต่ละอย่าง แต่ส่วนประกอบหลักก็ยังเป็น ถั่วพิชทาชิโอ แป้งและน้ำตาล รสก็หวานมันเป็นหลักอยู่ดี ส่วนสนนราคาไม่ถูกค่ะกล่องเล็กประมาณกล่องทิชชูแบน ก็ราว 500-700 บาท มันไม่ธรรมดาจริงๆ สำหนับขนมขั้นเทพข้อมูล อย่างละเอียดจาก ตุรกีชวนเทียว

P5 P6

จริงๆแล้ว ตุรกี มีอาหารมากมาย ให้เลือกลองรับประทาน ผมไปเองก็ทานไม่หมดมันมีให้เลือกเยอะจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร
ร้านน้ำชา ร้านผลไม้ น้ำผลไม้ ร้านอาหารข้างทาง เยอะแยะไปหมด เลือกไม่ถูกเลยทีเดียว

P7 P9 P8 P10

ร้านข้างถนน ก็มีเยอะแยะมากมาย ที่เห็นเยอะแยะ ก็คงจะเป็น ร้านข้าวโพดปิ้ง และก็ต้ม เป็นอาหารรองท้องสบายๆ อร่อยๆ ราคาไม่แพงด้วยครับ

P11

หอยแมลงภู่ยัดไส้ Stuffed mussel

ร้านจะตั้งอยู่ง่ายๆ ตั้งโต๊ะ วางถาด ยืนตามข้างถนน มีให้เห็นอยู่เยอะแยะ ตามร้านอาหารกฌมี วิธีการกิน ก็จะบีบเลมอนใส่ก่อน แล้วกิน อร่อยมากๆ ข้าวกับเนื้อหอยแมลงภู่ เข้ากันดีมากๆ ราคาไม่แพงมาก ตามขนาดของหอย

T9

หรือจะเป็นเกาลัดย่าง ร้อนๆ อร่อยๆก็มีให้ชิมกันครับ หาร้านที่ทำใหม่ๆ เพราะไปลองมา เจอร้านที่เขาทำเก่าๆ แข็งมาก ไม่อร่อยเลยยย

P12

ส่วนอาหารอีกอย่างหน่งที่แนะนำให้ไปลองกัน เป็นสูตรโปราณ นั้นก็คือ
ร้าน Vefe Bozacisi.
Boza น้ำข้าวสาลีหมัก เป็นเครื่องดื่มหน้าร้อนที่ใช้เวลาทำประมาณ 2-3 วัน เป็นเครื่องดื่มทานเล่น แต่กินหมดนี่ อิ่มเลย เวลาเสริฟจะโรยด้วยอบเชยบนหน้า เวลากินใช้ช้อนตัก หรือ ยกดื่มเลยก็ได้ และมีรสชาติเปรี้ยว หวาน หอม และ ข้นมาก ใครไป ตุรกี เมือง Istanbul ต้องลองไปชิมครับ

RW1

ขนมปังที่ขึ้นชื่ออีกอย่างหนึ่งของตุรกี ที่ผมเห็นบ่อยครั้งไม่ว่าจะอยู่ตรงไหน ก็คือ simit ขนมปังที่ทำเป็นรูปวงแหวนโรยด้วยงา ถือเป็นอาหารว่างยอดนิยมของคนตุรกี ที่ทุกบ้านต้องมีติดบ้านไว้

T24

ร้านนี้เป็นรถเข็น ย่างกันสดๆริมถนนเลย จะเสริฟปลามาพร้อมขนมปังบ้องโตๆ ปลาย่างร้อนๆ มีผักใส่มาด้วย อร่อยมากกก ราคาไม่แพงเลย เห็นได้ทั่วไปในอิสตัลบูล

P14

ปลาที่นี้จะสดมากกก เพราะแถวๆ สะพาน Galata มีคนตกปลาเยอะแยะมากมาย พอเขาตกเสร็จ เขาจะนำมาขายให้กับร้านอาหาร เพราะฉะนั้นปลาที่นี้จะสดใหม่อยู่เสมอครับ

P15

และที่ไม่ควรพลาดเลย คือ ชาตุรกี ราคาไม่แพงเลย มีทุกร้านอาหาร รสชาติอร่อย หอม กินได้เรือยๆ มีสีสันสวยงาม ชวนให้ดื่ม
อย่าพลาดที่จะลองนะครับ

ขอแนะนำอาหารคร่าวๆ เพียงเท่านี้นะครับ เพราะผมเองยังลองไม่หมดเลย มีเยอะแยะมากมายยยย

และแล้วก็ได้เวลาแนะนำสถานที่ท่องเทียว ที่สำคัญในอิสตัลบูล ที่ได้ไปเทียวมานะครับ อาจจะไม่ครบ เพราะบางวันฝนตกหนักเหมิอนกันเลย เก็บไม่ครบ…..

Hagia Sophia – Istanbul, Turkey

Hagia-Sophia-Istanbul-Turkey_2

ภาพนี้ขอยืมจากในเน็ต นะครับ มาจาก google.com

Hagia Sophia หรือ Aya Sofya Museum เดิมเคยเป็นโบสถ์ของคริสต์ศาสนานิกายออร์โธดอกส์ สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิ์คอนสแตนติน ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นสุเหร่าหรือมัสยิด และเป็นพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบัน

P2

และนี้คือภายในของวิหารเซนต์โซเฟียหรือสุเหร่าโซเฟีย (Hagia Sophia หรือ Aya Sofya) เป็นสิ่งหนึ่งที่ไปแล้ว ต้องไปให้ได้ครับ ในอิสตัลบูลและถือว่าเป็น สุเหร่าที่รับการคัดเลือกจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1985 เพราะฉะนั้นพลาดไมไ่ด้ แต่ค่าเข้าแพงเอาการเลย ตอนไป อยู่ในช่วงซ่อมแซม จึงไม่สามารถถ่ายแบบเต็มๆ มาให้ชม ถือว่าพลาดมา เพราะอยากถ่ายแบบกว้างๆ เลยถ่ายออกมาได้แค่ข้างเดียวครับ ใครชอบสถาปัตยกรรมแบบนี้ แนะนำเลยครับ

 

10550031_4600041495816_3140767486131151486_o

 

ภาพนี้ ใช้โปรแกรมPhotoshop Filp ครับ เพราะอีกด้านนึงซ่อมแซมเลยอดถ่ายมุมเต็มมา เป็นไรที่เสียดายมากๆ

10697409_4599987734472_8097508253375905258_o

“Zoe Mosaic” (ซ้ายบน) “Komnenos Mosaic” (ขวาบน) “Deisis Composition” (ล่างซ้าย)” Minbar” (ล่างขวา)

Deisis Compositionภาพพระเยซูในวันพิพากษาโลก (Doomsday) โดยมีพระแม่มารีกับเซนต์จอห์นแบ๊บติสต์วิงวอนขอพระเมตตาแก่ชาวโลก ภาพโมเสกอันเก่าแก่ชิ้นนี้มีการถกเถียงถึงกำเนิดวันของโมเสกอยู่พอสมควร เนื่องจากช่วงล่างของภาพเสียหายไปมาก แต่สรุปแล้วให้ถือเป็นภาพในยุคศตวรรษที่ 12
Zoe Mozaic อีกหนึ่งภาพโมเสกเก่าแก่ศิลปะไบแซนไทน์ เป็นภาพพระเยซูประทานพรให้แก่จักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 9 ซึ่งถือถุงเงินบริจาคแก่การบูรณะโบสถ์อยู่ด้านซ้าย ส่วนด้านขวาเป็นจักรพรรดินีโซถือม้วนหนังสือในมือ
Komnenos Mosaic เป็นภาพของจักรพรรดิ Komnenos Loannes II และจักรพรรดินีไอรีนชาวฮังกาเรียน โดยมีพระแม่มารีอุ้มพระเยซูอยู่ตรงกลาง ภาพโมเสกนี้ทำขึ้นเป็นสัญลักษณ์การบริจาคเงินเพื่อการบูรณะสุเหร่าโซเฟีย และอุทิศให้กับเจ้าชาย Prince
Aleksios (อยู่อีกมุมของผนังภาพ-ข้างจักรพรรดินีไอรีน) ที่สิ้นพระชนม์จากการเจ็บป่วยตั้งแต่ยังพระเยาว์ โดยภาพนี้เป็นโมเสกในสมัยศตวรรษที่ 12
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.oknation.net/blog/print.php?id=844101

10629371_4600018495241_8170025160485850111_o

ความสวยงาม เมื่อแหงนหน้ามองขึ้นไปบนเพดาน

1658340_4631514122612_1221228231334348030_o

พอเข้ามาภาพที่เห็นคือแบบนี้ เสียดายมากๆเลยครับ ถ้ามองในภาพ มุมด้านล่าง จะเห็นคนอยู่ ลองเทียบสเกลดูนะครับ ว่า สุเหร่าโซเฟียยิ่งใหญ่ ใหญ่โตขนาดไหนส่วนอื่นๆ ภายใน สุเหร่าโซเฟีย ครับ

P4

 

ปิดด้วยภาพนี้ครับ ภาพ Hagia Sophia ตอนเช้ามืด แนะนำหากใครจะมาถ่ายภาพ แนะนำมาช่วงเช้าครับ จะได้ภาพที่สวยงาม น้ำนิ่งๆ น้ำพุไม่เปิด ได้แสงสะท้อนของตัวสุเหร่าโซเฟีย กับเปิดไฟสวยงามโดดเด่น

 4

สถานที่ต่อไปคือ “จตุรัสตักซิม” (Taksim square) นั้นเองครับ

เราจะเดินจากจุด Istiklal Streetจุดๆนี้ถือว่าเป็นจุดเดินเล่น ยิ่งตอนเย็นๆ คนยิ่งเยอะ อากาศดีๆ เดินชิลๆ ตึกบ้านเรือนสวยงาม ร้านค้า ร้านอาหารมีเยอะแยะมากมาย ระยะทางจาก Istiklal Street ไป Taksim square ไกลพอสมควรแต่ระหว่างทางมีสิ่งน่าสนใจมาก บ้านเรือนสมัยเก่า ที่ดึงดูดใจ ร้านขายหนังสือเก่า ร้านกาแฟ หรือจะเป็นคาเฟ่เล็กๆ ตกแต่งสวยงาม

3

Stiklal Street

จุดเด่นของ Istiklal Street คือ ตรงกลางถนน จะมีราง สำหรับนรถราง สีแดง เอาไว้ให้นักท่องเทียวนั่งเทียวชมถนนเส้นนี้ ราคาไม่แพงมากครับ สามารถไปลงสถานี Taksim square ได้เลย หากไม่อยากเดิน

1

ถึงแล้วว Taksim square  สวยงามมากๆ ที่นี่เป็นจุดสำคัญมากๆเลยทีเดียว เพราะเวลามีการประท้วง ประชาชนจะรวมตัวกันเพื่อชุมนุมเรียกร้อง แก่รัฐบาลตุกี

2

ถ่ายเข้าไปใกล้ๆหน่อย จะได้เห็นรายละเอียด
พอเดินเทียวชมได้สักพักแล้ว เวลาเริ่มเย็น ย่านแห่งนี้ ก็ยิ่งคึกคักขึ้นอีก ตอนเย็นๆ จะมีดนตรีเปิดหมวก มีเสียงเพลงเพราะๆ มีดนตรีสดให้ฟังกัน ข้างถนนเลย ได้บรรยากศมากๆ

6

บรรยากาศยามค่ำคืน
Istiklal Street

 

1

Galata Tower

ที่เทียวต่อไปที่เมื่อมาเมืองอิสตัลบูลแล้ว อยากชมวิวกว้างๆ บรรยากศของเมืองโดยรอบทั้งหมด  Galata Tower เวลาที่แนะนำเลยคือ ช่วงพระอาทิตย์ตก แต่ต้องกะเวลาดีๆนะครับ เพราะช่วงนั้นคนต่อคิวเยอะมากกก เผือเวลาพระอาทิตย์ตกก่อนสัก ชั่วโมงนึงเพราะช่วงที่ผมไป รอประมาณ ชั่วโมงกว่าๆ แหนะ ไม่จำกัดเวลาขึ้น แต่ทางข้างบนแคบมาก เลยใช้ขาตั้งกล้องถ่ายรูปไม่ได้ มาชมบรรยากาศกันเลยดีกว่าครับ

2

วิวตอนพระอาทิตย์กำลังจะตก ผมไปรอแสง ตั้งแต่  4 โมงกว่าๆ อยู่ถึง 1 ทุ่มกว่าๆเลย ฟินมากๆเลยครับ จากจุดนี้เราสามารถเห็นได้หมดเลย

4

มองเห็น Galata Bridge

5

ภาพนี้ใช้ Lens tele ระยะที่ 200 ถ่าย  Topkapi Palace

Topkapi Palace หรือ ฮาเล็ม บริเวณนี้ถือเป็นเขตประวัติศาสตร์ของอิสตันบูลที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกตั้งแต่ปี 1985 หากใครชอบเดินชม อะไรนานๆ แนะนำมาเลยครับ เพราะ มีหลายส่วนให้เข้าชมกัน
ข้อมูลเพิ่มเติมหากใครสนใจ http://www.oknation.net/blog/mena/2013/01/19/entry-1
T17 T1

และแล้วช่วงเวลาสำคัญก็มาถึงครับ นั้นคือช่วง Twilight เมื่อพระอาทิตย์ตกแล้ว แสงสีตัวเมืองก็ค่อยๆ เกิดขึ้น เกิดความสวยงามมากๆ ประทับใจไปนาน  คุ้มค่ากับการที่รอคอยต่อคิวเป็นชั่วโมง เพื่อรอชมเวลานี้ครับ

1

ฮิปโปโดรม (Hippodrome) สร้างในสมัยจักรพรรดิเซ็ปติมุส เซเวรุส เป็นสนามอาเรน่าที่ใช้สำหรับการแข่งม้า และกิจกรรมต่างๆสามารถจุผู้คนได้กว่า 100,000 คน ในฮิปโปโดรมมีอนุสาวรีย์เด่นๆสามแห่งคือ
-เสาโอบีลิสก์ฟาโรหืธุตโมส (Obelisk of Pharaoh Thutmose) ซึ่งคอนคอนสแตนตินมหาราชนำมาจากเมืองคาร์นัคประเทศอียิปในสมัยที่มีการขนย้ายอนุสาวรีย์ต่างๆมาจากอาณาจักรยุคโบราณ
-เสางู (Serpentine colum) สลักเป็นรูปสามเหลี่ยมตัวกระหวัดรัดพันกันเดิทตั้งอยู่ที่วิหารเทพอพอลโล่แห่งเมืองเดลฟี
-เสาคอลัมน์คอนสแตนตินที่ 7 (Column of Constantine VII) ตั้งขึ้นในปี ค.ศ.940 แต่ไม่ทราบประวัติที่แน่ชัด
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.tripdeedee.com/traveldata/turkey/turkey03.php

Aqueduct Bridge Roman in Turkey.

PW2
ท่อส่งน้ำ สิ่งมหัศจรรย์ด้านวิศวกรรม และเป็นท่อส่งน้ำของโรมันเป็นผลงานที่โดดเด่นที่สุดด้านวิศวกรรมในสมัยโบราณ ก่อนสร้างท่อน้ำวิศวกรจะประเมินคุณภาพของแหล่งน้ำโดยตรวจดูว่าน้ำใสไหม ไหลเยอะไหม และรสชาติเป็นอย่างไร พวกเขาสังเกตด้วยว่าผู้คนในท้องถิ่นที่ดื่มน้ำนั้นสุขภาพเป็นอย่างไร เมื่อผ่านขั้นตอนนี้แล้ว ผู้สำรวจจะคำนวณความถูกต้องของเส้นทางและความชันของท่อน้ำ รวมทั้งขนาดและความยาวของท่อด้วย ส่วนแรงงานหลักในการก่อสร้างคือทาส การก่อสร้างอาจใช้เวลาหลายปีกว่าจะสร้างเสร็จทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงโดยเฉพาะส่วนที่เป็นสะพานโค้งอน้ำ ส่วนใหญ่ถูกใช้ในการ อาบน้ำ เพราะสมัยก่อน จะมีเป็นโรงอาบน้ำ ดังนั้นชาวเมืองเลย ต้องการน้ำอย่างมาก ในการใช้
Info:http://goo.gl/ZmhB4n

1

พระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabachce palace)

สุดปลายถนนอีเนอนุจากทัคซิมมาถึงบอสฟอรัสคือ พระราชวังโดลมาบาห์เชที่แลดูงดงามอย่างประหลาด ซึ่งสร้างโดยสุลต่านอับดุลเมจีดใรช่วงศตวรรษที่ 19 เพื่อประชันกับทางยุโรป การสร้างพระราชวังโดลมาบาห์เชต้องสิ้นเปลืองทองไปหลายตันทำให้จักรวรรดิต้องล้มละลาย  พอสร้างเสร็จได้ไม่นานสุลต่านก็สิ้นพระชนม์ พระอนุชาอับดุลอาซีสทรงขึ้นครองราชย์ต่อแต่ไม่ทรงโปรดที่นี่ จึงมีบัญชาให้สร้างพระราชวังที่ประทับขึ้นใหม่ที่อีกฟากหนึ่งของช่องแคบบอสฟอรัสคือพระราชวังเบย์แลร์เบย์ โดยไม่สนพระทัยว่าเงินในท้องพระคลังไม่มีเหลืออีกแล้ว แม้โดลมาบาห์เชจะมีพรมและงานศิลปะงามๆอยู่ไม่น้อย แต่ตัวพระราชวังมักให้ความรู้สึกว่าเป็นการสิ้นเปลืองเงินแผ่นดินโดยใช่เหตุ ทั้งยังสะท้อนรสนิยมที่ไม่ดีอีกด้วย แต่นั่นอาจเป็นการมองแบบใจแคบไปบ้าง การที่เมห์เมตที่ 6 ทรงตัดสินพระทัยละทิ้งราชบัลลังก์ไปนั้นหาใช่เพราะถูกคณะผู้รักชาติภายใต้การนำของอาตาตุร์คข่มขู่คุกคามไม่ แต่ทรงปริวิตกว่าจะต้องใช้พระชนม์ชีพที่เหลืออยู่ ณ พระราชวังโดลมาบาห์เชที่วกวนและฉูดฉาดบาดตาแห่งนี้ต่างหาก

Grand Bazaar.
เป็นตลาดขนาดใหญ่ ขายของที่ละลึกมากมาย ให้เลือกสรร ใครชอบช้อปคงชอบไม่น้อย มีเสือผ้า ธงชาติ โคมไฟสวยงาม และของฝาก ขนมหวานมากมาย ราคาแตกต่างกันไปแต่ละร้าน ควรเดินถามเปรียบเทียบราคาก่อน อย่าเพิ่งรีบชื้อ บางร้านถูก บางร้านแพงมาก และควรต่อราคา ลดประมาณ 20-30% จากราคาจริง

 

1

2

 

8

ชมบรรยากาศฝั่ง Üsküdar กับ Maiden’s Tower กันครับ จุดนี้ต้องเดินทางหน่อย เพราะต้องข้ามเรือมา ผมเดินทางจากท่า Kabatas โดยนั่งเรือจาก Kabatas Motor iskelesi ไปเส้น Kabatas -Üsküdar ไปลง ที่ Üsküdar ค่าโดยสารไม่แพงครับ ประมาณคนละ 2 TL นั่งแปปเดียวครับ พอถึงท่า เดินไปจุดชมวิว ประมาณ กิโลกว่าๆ เพราะฝั่งนี้ คนอยู่หนาแน่นมากๆ เดินทางโดยรถไม่สะดวกครับ เดินดีกว่า พอไปถึงแถวนั้น จะดูเป็น ที่นั่งชมวิว มีน้ำ อาหาร ขนมขาย ด้วยครับ บรรยากาศดีมาก

eski-istanbul

ประวัติของที่แห่งนี้คือ
หอคอยแห่งนี้ถูกสร้างในสมัยจักรพรรดิอเล็กซิออสที่ 1 โคมเนนอส (Alexios I Komnenos) ซึ่งจักรพรรดิ์องค์นี้ก็มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้เกิดสงครามครูเสด( สงครามศาสนาระหว่างศาสนายูดาย ศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลาม ) เพราะสมัยนั้น อสิลามได้มีการแผ่ขยายอาณาจักรมากขึ้นจนขยายเข้าไปทางกรุงคอนสแตนติโนเปิ้ล เป็นผลให้พระองค์ต้องทำการขอความช่วยเหลือไปยังพระสันตะปาปา เพื่อชวยกันปราบปราม เซลจุคตุรกี (Seljuk Turks)โดยตลอดระยะเวลาก็มีการรบต่อสู้กัน หอคอยแห่งนี้อาจจะถูกถูกสร้างเพื่อเป็นสถานีของกองทัพเรือ บนพื้นที่เกาะเล็กๆ หน้าไครโซโพริส (Chrysopolis ) ปัจจุบ้นคือ Üsküdar
หลังจากที่โดยฝ่ายออโตมันตีแตก สลุตาน ได้ใช้หอแห่งนี้เป็นนาฬิกาปี ค.ศ 1509 เกิดแผ่นดินไหว และในปี ค.ศ 1721 ได้ถูกเผาทำให้ได้รับความเสียหายมาก หลังจากนั้นก็ได้ถูกใช้ทำเป็นประภาคาร ต่อมาในปี ค.ศ 1763มันได้รับการสร้างใหม่โดยใช้หิน และก็มีการบูรณะซ่อมแซมกันหลายครั้งเนื่องจากเกิดแผ่นดินไหว จนปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเทียว และเป็นร้านอาหาร

ขอบคุณข้อมูลจาก http:papersanook.blogspot.com/2013/04/maidens-tower-leanders-tower-kz-kulesi.html

kız kulesi ve sayarburnu

46

จุดชมวิวหอคอยแห่งนี้ เป็นสถานที่พักผ่อนของชาวเมือง และนักท่องเทียวที่ต้องการนั่งชมบรรยากาศของหอคอยแห่งนี้ตอนพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามมากๆ จุดนี้จะมีร้านค้า บริการเครื่องดื่ม ชาตุรกี กาแฟรสเยื่ยม ขนมปังไว้ทานเล่น มีร่มบริการกันแดด อย่างดี ที่นั่งสบายย ลมเย็นๆ เป็นอะไรที่ประทับใจมากเลยครับ เมื่อพระอาทิตย์ค่อยๆ ตกดิน ความสวยงามค่อยๆเริ่มเกิดขึ้น แสงพระอาทิตย์สาดเข้าตัวหอคอย Maiden’s Tower เป็นอะไรที่สวยงามมากๆ

5

เมื่อพระอาทิตย์ตกดินไฟหอคอยเปิดสวยงาม และ ฉากหลังที่ช่วยเสริมเรื่องราวของตัวหอคอย มันลงตัวจริงๆเลย

1

บริเวณจุดถ่าย maiden’s tower หากเดินกลับไปยังท่าเรือ ระหว่างทางกลับจะเห็น Bosphorus bridge ซึ่งงสามารถถ่ายรูปได้แสงไฟสีสันของสะพานแห่งนี้ สวยงามมากๆ

7

2

The Balisilica Cistern

Yerebatan Sarnici/Basilica Cistern อุโมงค์เก็บน้ำใต้ดินใหญ่สุดในอิสตันบูล
อ่างเก็บน้ำแห่งนี้มักจะถูกเรียกว่า ‘พระราชวังใต้น้ำ’เนื่องจากสถานที่แห่งนี้ใช้เป็นอ่างเก็บน้ำใต้ดินโบราณที่ใหญ่ที่สุดท่ามกลางอ่างเก็บน้ำโบราณกว่าร้อยแห่งของเมือง มีลักษณะเป็นอุโมงค์ใต้ดินขนาดใหญ่ราวๆ กับมหาวิหารและสามารถกักเก็บน้ำได้ถึง 80,000 ลูกบาศก์เมตรซึ่งเก็บน้ำได้เยอะ ซึ่งถายในอ่างเก็บน้ำ มีขนาดมืดมาก และมีความชื้นสูง และเย็นพอดีๆ

1

 

Yerebatan Sarayi

เป็นสิ่งหนึ่งที่เข้ามาในอุโมงค์เก็บน้ำแล้ว ต้องเข้าไปดูคือ เมดูซ่าผู้หญิงที่มีผมเป็นงู เป็นที่ก่อนเดินทางได้อ่านหนังสือ ละตะลึงว่าทำไมต้องมีเจ้าตัวนี้ในอุโมงค์เก็บน้ำแห่งนี้ ” เล่ากันในตำนานของกรีกว่า เดิมเมดูซ่าเป็นสาวงามน้องคนสุดท้องของสามพี่น้องตระกูลกอร์กอน แต่โดนเทพโพไซดอน เทพแห่งท้องทะเลขืนใจในวิหารของเทพีอธีนา เทพีอธีนารู้สึกถูกลบหลู่ จึงสาบเมดูซ่าให้เป็นหญิงอัปลักษณ์มีผมเป็นงู และมีดวงตาเป็นอำนาจลึกลับ หากผู้ใดจ้องมองจะกลายเป็นหินทันที ” ชาวกรีกเชื่อว่าหากมีเจ้าตัวนี้อยู่ในนี้ จะสามารถปกป้องการปองร้ายของศัตรูที่จะเข้ามาก็ได้ แต่คนสร้างอาจจะเกรงกลัวว่าจะต้องกลายเป็นหินเมื่อไปจ้องตานางเมดูซ่าเข้า ก็เลยสลักวางกลับหัวหนึ่งต้น ตะแคงอีกหนึ่งต้น เลี่ยงการสลักวางให้ไม่ตรงซะ จะได้ไม่เหมือนถูกจ้องมอง.

3

Galata bridge

11

เป็นสะพานที่มีชื่อเสียงของเมืองอิสตัลบูล โดยรอบของสะพานจะเป็นร้านอาหาร คาเฟ่เยอะแยะมากมาย มีตลาดขายอาหารทะเลสดๆ หรือจะคาเฟ่ริมน้ำ และ street food  ต่างๆ ราคาไม่แพงมาก มีให้เลือกหลายร้าน และมี ท่าเรือ ต่างๆ ไว้บริการ ในบริเวณเมืองอิสตัลบูล หรือออกไปไกล เมืองอื่นเลยก็มี การจราจรแถวนี้ จะคับคั่งมากๆ ในช่วงเย็น และคนก็เยอะมากกด้วย เสียงดัง แต่ได้บรรยากาศเมืองดีนะครับ วุ่นวายดี ฮ่าๆ

7

 

ตอนเย็นๆ จะมีคนมาตกปลา ปลาที่เขาได้มา จะนำไปขายให้ตามร้านอาหารต่างๆ ในเมืองอิสตัลบูล อาหารทะเล จำพวกปลาที่นี้เลยสดใหม่ตลอดเวลา

6

คนทุกรุ่นทุกวัย มาตกปลากันหมด

10

ร้านอาหารลอยน้ำ เป็นจุดเด่นที่อยู่ข้างๆ สะพาน Galata เป็นที่นิยมให้หมู่นักท่องเทียวได้มาลองอาหารสดๆ ใหม่ๆ จากร้านอาหารแห่งนี้

2

มุมกว้างๆ ของลานตรงหน้าสะพาน Galata เป็นที่นั่งเล่นของชาวเมืองและนักท่องเทียว ผู้คนเยอะแยะมากมาย มีสถานีรถบัสเยอะแยะมากมาย

1

ความสวยงามของสุเหร่ายามค่ำคืน

มาเทียวกันต่อ กับสถานที่ท่องเทียวอีกแห่งหนึ่งคือ Bosphorus bridge กับ Ortaköy Mosque ครับ

 

 

11

สถานที่แห่งนี้ สามารถมองเห็น  Bosphorus bridge กับ Ortaköy Mosque ได้อย่างสวยงามครับ ลงตัวมากๆ บริเวณรอบๆ จะเป็นคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านขายของฝาก  เยอะแยะมากมาย นักท่องเทียวจุดนี้เยอะครับ ต่างมาถ่ายรูปเก็บเป็นที่ละลึกกันไป

 

IS_MAI_1

จุดท้ายแล้วครับ กับที่ท่องเทียวที่ผมได้ไปเทียวและแนะนำมา บางจุดอาจไมไ่ด้ไปเพราะ บางวันฝนตกเลยไม่ได้ออกไปไหนเลย เลยเอามานำเสนอเท่าที่ได้ไปมาครับ และจุดสุดท้ายที่จะแนะนำ คือ Bosphorus Tours, Bosphorus Cruise สิ่งสำคัญมากๆ ที่ควรทำ ผมตั้งใจให้ทริปวันสุดท้าย กับการเทียวอิสตัลบูล เป็นวันพักผ่อน คือ การนั่งเรือชมความสวยงามผ่านช่องแคบบอสฟอรัส เป็นช่องแคบที่กั้นระหว่างตุรกีเธรซที่อยู่ในทวีปยุโรปกับคาบสมุทรอานาโตเลียในทวีปเอเชียเป็นช่องแคบหนึ่งของตุรกี และช่องแคบบอสฟอรัสมีความยาวราว 30 กิโลเมตรอีกด้วย

ขั้นตอนแรก หาท่าเรือเพื่อชื้อตั๋ว นั่งเรือชม ท่าที่ผมขึ้นคือท่าแถวๆสะพาน Galata  ครับ เวลามีให้เลือกเยอะแยะครับ แต่รอบที่แนะนำคือรอบเย็น เพราะเวลานั้นจะไม่ร้อนและมีบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดินด้วย เย็นสบายและวิวสวยงามมากๆ

map

โดยการล่องเรือชมเมืองอิมตัลบูล เราจะพบเจอสถานที่เยอะแยะมากมายมากๆ เพลินเลยทีเดียว บนเรือจะมีบริการน้ำดื่ม ชา และขนมไว้ทานเล่น ชมบรรยากาศรอบๆ ช่องแคบบอสฟอรัส กันดีกว่าครับ รูปอาจจะเยอะหน่อย แต่คุ้มค่ามากๆครับ กับการล่องเรือ เป็นประสบการณ์ที่มีค่าจริงๆ

IS_1-20IS_1-19IS_1-18IS_1-17IS_1-16IS_1-14IS_1-13IS_1-12IS_1-10IS_1-5IS_1-4IS_1-3IS_1-2IS_1-1

 

2

ภาพภายนอกครับ ว่า ยิ่งใหญ่แค่ไหน

1

หรือจะเรียกว่า Blue Mosque ก็ได้ครับ สวยงามไม่แพ้กับ Hagia Sophia เลย ทั้งสีสัน ความสวยงาม และสถาปัตยกรรม
โดยปกติแล้ว ชาวมุสลิมจะทำการละหมาดวันละ 5 เวลา คือ ย่ำรุ่ง (ประมาณ 5-6 โมงเช้า) กลางวัน (เที่ยงครึ่งถึงบ่ายเศษ) เย็น (บ่ายสามถึงห้าโมงเย็น) พลบค่ำ (18.30-19.30น.) และกลางคืน (ตั้งแต่ 2 ทุ่มเป็นต้นไป) ดังนั้น ทางมัสยิดสีฟ้าจึงเปิดให้เข้าชมด้านในได้ 3 ช่วงเวลา คือ ช่วงเช้า 09.00 – 11.00น. ช่วงเที่ยง 12.30 – 14.15น. และช่วงเย็น 15.15 – 16.30น.ดังนั้นเวลาเข้าไปชม ต้องดูเวลาดีๆด้วยนะครับ คนเข้าชมเยอะมากกก ก่อนเข้าไป ต้องถอดรองเท้าก่อน ละใส่ถุงใส และก็ชื้อบัตรเข้าชมครับ

3

ความสวยงามเมื่อเข้ามาด้านใน นั้นสวยงามมากๆ เป็นห้องกว้างๆ ด้านสถาปัตยกรรมของมัสยิดสีฟ้าแห่งนี้ ถือเป็นสุดยอดของสองจักรวรรดิ คือ ออตโตมันและไบเซนไทน์ เพราะได้รวบรวมเอาองค์ประกอบบางส่วนมาจากวิหารเซนต์โซเฟีย ผนวกกับสถาปัตยกรรมแบบอิสลามดั้งเดิม Blue Mosque ถือว่าเป็นมัสยิดที่ใหญ่สุดในตุรกี สามารถจุคนได้เรือนแสน และตัวมัสยิดตั้งอยู่ในพื้นที่ประวัติศาสตร์ของอิสตันบูลซึ่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี พ.ศ. 2528

มัสยิดสีฟ้าหรือมัสยิดสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmed Mosque) ตั้งตามชื่อของผู้สร้างเลย เป็นมัสยิดในประวัติศาสตร์ของอิสตันบูล  สุลต่านอาห์เมตได้สานฝันของพระองค์เมื่อตอนอายุ 19 ปี เพื่อสร้างมัสยิดแห่งนี้ โดยใช้เวลาในการสร้างนานถึง 7 ปี คือ ระหว่างปี ค.ศ.1609-1616 พอสร้างเสร็จไม่ถึงปี พระองค์ก็สิ้นพระชนม์ตอนอายุ 27 ปี

แต่หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมเรียกว่ามัสยิดสีฟ้า เนื่องจากเวลาเข้าไปชมด้านในแล้วบางครั้งไม่อยู่ในช่วงที่มีแสงอาิทตย์ส่อง และจะมองเห็นแต่กระเบื้องสีแดงน้ำตาลเป็นส่วนใหญ่ สาเหตุเป็นเพราะกระเบื้องที่อยู่ระดับล่างจะเป็นการออกแบบแบบดั้งเดิม ขณะที่ระดับแกลลอรี่หรือด้านบนที่ออกแบบให้มีสีสัน เช่น ลายผลไม้ ดอกไม้ โดยที่กระเบื้องกว่า 2 หมื่นชิ้นเหล่านี้อยู่ในกำกับดูแลของช่างจากเมืองคัปปาโดเกีย ซึ่งได้รับค่ากระเบื้องแต่ละชิ้นในระดับราคาคงที่จากการกำหนดโดยพระราชกฤษฎีกาของสุลต่าน ในขณะที่ราคากระเบื้องทั่วไปสูงขึ้นตลอดเวลา จึงเป็นผลให้คุณภาพของกระเบื้องที่ใช้ในอาคารค่อยๆ ลดลง จากสีแดงกลายเป็นสีน้ำตาล สีเขียวกลายเป็นสีฟ้าขาวจุดด่างดำ บางส่วนเป็นกระเบื้องรีไซเคิลจากฮาเร็มใน Topkapi Palace เมื่อครั้งเสียหายจากไฟไหม้ในปี 1574 ด้วย

4

หลังคาโดมซึ่งสูงถึง 43 เมตร และมีลวดลายอันสวยงาม

1qภาพภายนอกของ Hagia Sophia ครับถ่ายจากตรงน้ำพุ

เรื่องนักท่องเทียวส่วนใหญ่ที่มาเทียวกัน มีทั้งจีน ฝรั่งอาหรับ แขก ทั้งนั้นและนักท่องเทียวเยอะมากกก ช่วงเวลาเทียงๆ เย็นๆ คนเลยเยอะเป็นพิเศษการเดินทางอาจจะลำบากนิดนึง เพราะคนแออัด แต่คนตุรกีเอง ขอบอกเลยว่า ดีครับ ไม่ค่อยโกงราคานักท่องเทียวเท่าไหร่ ยิ้มแย้ม ไม่น่ากลัวอย่างที่ใครคิดว่า ตุรกีจะน่ากลัว จะมีสงครามกลางเมืองไม่มีเด็ดขาดครับ เทียวสบายๆ ผู้คนเป็นมิตรดี

10679508_1494348037490139_2084214149115691196_o

Blue Mosque มุมจากสุเหร่า Hagia Sophia ของช่างภาพและนักท่องเทียววว

Santa Maria Draperis Church ตั้งอยู่ตรงถนน Istiklal Street

2

เป็นโบสถ์คริสต์ครับ สวยงามเหมือนกัน ในตุรกี เมืองอีสตัลบูล จะมี ยิว คริสต์ และ อิสลาม อยู่ร่วมกันครับ ดังนั้นจะเห็นโบสถ์สุเหร่า ต่างๆ ทั่วไปครับใครที่ชอบงานสถาปัตยกรรม แบบยุคโบราณเก่าๆ ควรมาเลยครับ สวยสุดยอดมากๆ คุณจะหลงรัก ประเทศตุรกีเลยทีเดียวเลยครับ

1

3

T1

จบการเดินทางในเมืองอิสตัลบูลเราใช้เวลาเที่ยวสำรวจในเมืองนี้แค่ 2 วันก้เพียงพอแล้ว เพราะเรามีแผนที่จะเดินทางต่อที่เมือง Ephesus กันในเช้าของวันที่ 3 เดินทางตั้งแต่ตอนเช้าๆ สายๆเลย วิธีการเดินทางไปยังเมืองนั้น เราจะใช้บริการ เครื่องบิน บินจาก อิสตัลบูล ไปลงยังเมือง อิ้สเมียร์ (izmir) ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ค่าตั๋วเครื่องบินไม่แพงมาก ประมาณ 1500 บาท แล้วแต่ฤดูกาล

T83

เมืองเอเฟซุส (Ephesus)หรือเอเฟส (Efes) : เมืองโบราณของโรมัน เติมโตในยุคกรีนรุ่งเรืองในยุคโรมันสมัยจักพรรดิออกุสตุส ซีซาร์ มาดูของจริงแล้วยิ่งใหญ่มากๆ สมัยก่อนคงสวยน่าดูเลยทีเดียวเลยนะ เราใช้เวลาเที่ยวชม ณ เมืองโบราณแห่งนี้ แค่ครั้งวันเท่านั้น เพราะเราต้องต่อรถบัสไปยังเมืองอื่นอีกนั้นก็คือ เมือง Pamukkale นั้นเอง โดยใช้เวลาเดินทางจากเมืองนี้แค่ 2 ชี่วโมง 30 นาทีเองครับ 

T126T127T130

Hierapolis Theatre, Pamukkale

Hierapolis Theatre โรงละครโรมันตั้งอยู่ในเมืองปามุคคาเล่ Pamukkale วิธีการสร้างน่าสนใจมาก สร้างโดยการสกัดเข้าไปในไหล่เขาเพื่อให้เป็นที่นั่งสำหรับคนนั่งชมการแสดง ซึ่งสามารถบรรจุคนได้มากกว่า 12,000 คน

T76T77T78T79

Cotton Castle, Pamukkale.

Pamukkale หรือที่คุ้นชื่อกันว่า ” ปราสาทปุยฝ้าย ” เป็นน้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นที่มีแร่หินปูน (แคลเซียมออกไซด์) ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมากไหล ไหลรินลงมาจากภูเขา “คาลดากึ” ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปทางทิศเหนือ รินเอ่อท้นขึ้นมาเหนือผิวดิน และทำปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศ เกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติ อันสวยงามแปลกตาที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ยากจะหาที่ใดเหมือน

เมื่อชมพระอาทิตย์ตกดินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เตรียมตัวไปท่ารถบัส เพราะคืนนี้เราต้องจะนั่งรถบัสยาวไปยัง เมือง  Cappadocia เลย โดยใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 7 ชั่วโมง ก็เลยประหยัดค่าที่พักไป 1 คืน เพราะเรานอนบนรถบัสยาวๆเลย

 

T63

คับปาโดเกีย (Cappadocia) มีความสำคัญมาแต่โบราณกาลเพราะเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหมเส้นทางค้าขายแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ทอดยาวจากตุรกีไปจนประเทศจีน เป็นพื้นที่พิเศษที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ ทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา จนเกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวง ที่เต็มไปด้วยหินรูปแท่งกรวยเยอะแยะมากมาย

T66

T65T64T69

Hot Air Balloon in Cappadocia

นอกจากภูมิประเทศที่สวยแปลกตาแล้ว ยังมีกิจกรรมยอดฮิตที่น่าสนใจ ซึ่งใครมาเมืองแห่งนี้แล้ว ต้องขึ้นให้ได้ นั้นก็คือ การขึ้นบอลลูน เพื่อขึ้นไปชม ทัศนียภาพที่สวยงามตอนพระอาทิตย์ขึ้น ชมความยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน อย่าพลาดกับช่วงเวลาแห่งความประทับใจ และประสบการณ์ที่ดีในชีวิตนะครับ

วิธีการจองบอลลูน

วิธีที่จะสะดวกและง่ายที่สุดในการจองบอลลูน ก็คือ จองกับโรงแรม ที่พัก สอบถามเขาว่า มีบริการจองบอลลูนให้มั้ย หากมีก็ตกลงราคา บริษัท เวลา ให้เรีอบร้อย ตอนเราไป เราไปช่วงหยุดยาวของชาวตุรกี คิวเต็มหมด โชดดีที่เราอยู่ที่นี้ 3 คืน เลยเลือกวันถัดไป โดยโดนราคาต่อคน 150 ยูโร แหนะ ต้องยอมตกลงไป เพราะอยากขึ้นมา เดินเข้าไปหาทัวร์บอลลูนในเมืองก็ไม่มีเต็มหมด เลยต้องยอมราคานี้ไปครับ

พอนัดแนะวันเวลาขึ้นเรียบร้อยแล้ว เช้าวันถัดไป จะมีรถตู้มินิบัส มารับหน้าโรงแรมครับ แล้วขับรถต่อไปยังสถานีนึงเพื่อไปรวมตัวกันก่อน ที่บ้านหลังนึง จะเพื่อให้รับประทานอาหารเช้ากัน อาหารเช้าก็จะเป็น ขนมปัง 2 3 ชนิด ชา และ กาแฟ ให้ชงกันตามสบายเลย กินเบาๆก่อนขึ้นบอลลูนกัน

T71T70T61

พอฟ้าใกล้ๆสว่างก็จะเรียกรวมพลกัน ขึ้นรถ และขับไปยังจุดปล่อยบอลลูนกัน เขาก็จะโชว์การจัดเตรียมบอลลูนกัน น่าตื่นตามากๆ วันที่เราขึ้นฟ้าดี ลมไม่แรงเลยครับ โชดดีสุดๆ เมื่อเตรียมความพร้อมเสร็จแล้วก็จะสาธิตวิธีการขึ้น ลง ว่าเราควรจะวางตัวกันอย่างไรเวลาอยู่บนบอลลูน จะได้ปลอดภัยกัน เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เวลาที่ทุกคนต่างรอคอยก็มาถึง นั้นก็คือ การปล่อยบอลลูนขึ้นฟ้าครับ !!!

T73

ตอนแรกก็กล้าๆกลัว ว่าจะขึ้นดีมั้ย เพราะเคยมีข่าวว่า บอลลูนที่นี้เคยตกครั้งนึง แต่เอาน่ะ อย่าไปกลัว ครั้งนึงในชีวิตก็ต้องทำให้ได้ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แต่พอบอลลูนค่อยๆ ขึ้น ความรู้สึกกลัวก็หายไป ความรู้สึกตื่นเต้นมาแทน ความรู้สึกที่สุดยอดมากๆ เพราะเรากำลังขึ้นไปเรือยๆ สูงขึ้น สูงขึ้น ยิ่งขึ้นตอนช่วงพระอาทิตย์ขึ้นเนี้ย สวยสุดยอดมากๆเลยครับ เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตสำหรับการเดินทางเลยทีเดียว ฟินมากๆ

ลอยขึ้นสูงเรือยๆ เราจะเห็นภูมิประเทศที่แปลกมากขึ้นเรือยๆ ครับ พื้นที่พิเศษที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟนี่ น่าตื่นตาจริงๆ ไม่เคยเห็นมาก่อน

บอลลูนมีจำนวนเยอะมากๆมีมากมายหลากหลายบริษัท จนบางทีก็กลัวว่าจะชนกัน แต่ไม่ต้องกังวลครับ กัปตันบังคับดีมาก ไม่มีโดนกันเลย…..

เราว่า คัปปาโดเชีย เวลาที่น่าจะอยู่เที่ยวอย่างชิลๆ สบายๆ น่าจะประมาณ 2 วัน เพราะสถานที่แห่งนี้มีสถาที่ท่องเที่ยวเยอะมาก อยากให้เที่ยวชมสถานที่ต่างๆ กันอย่างช้าๆ ไม่อยากให้เร่งรีบกัน โรงแรมที่พักที่นี้ราคาไม่แพงมาก มีให้เลือกหลากหลาย หลังจากที่อยู่เที่ยวเสร็จที่นี้เรียบร้อยแล้ว ก็เตรียมตัวเดินทางกลับ เมือง อิสตัลบูล เลย โดยใช้สนามบิน ที่อยู่ใกล้เมืองนี้มากที่สุด กลับสู่เมือง อิสตัลบูล และเตรียมตัวต่อเครื่องกลับ ประเทศไทยกันเลย

Travel_budget_1

This entry was posted in: Travel

by

รวบรวมเรื่องราวการท่องเทียวเดินทางตามสถานที่ต่างๆ จากสองพี่น้องฝาแฝด ที่รักการเดินทาง.

2 Comments

  1. CHOLAROS NONGPAR says

    เป็นการท่องเที่ยวที่สุดยอดมาำ ที่วิเศาคือการอรรถาธิบายจนจินตนาการไปได้ไหลกว่ารูปเสียอีก ขอชื่นชมนะคะ

    Like

  2. เป็นการท่องเที่ยวที่สุดยอดมาก ที่วิเศษคือการอรรถาธิบายจนจินตนาการไปได้ไกลกว่ารูปเสียอีก ขอชื่นชมนะคะ

    Like

Leave a comment