สวัสดีครับ พอดีว่าช่วงต้นเดือนสิงหาคมได้มีโอกาสไปเที่ยว เขื่อนเชี่ยวหลาน ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยทริปนี้ตั้งใจจะไปพักผ่อนซะหน่อย เลยตัดสินใจว่าจะอยู่ 3 วัน 2 คืน เลยอยากได้อารมณ์อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ แล้วมาดูที่พัก ที่เป็นแพต่างๆ ในเขื่อนเชี่ยวหลาน ซึ่งมีอยู่เยอะมาก มีของทางอุทยานด้วย ซึ่งรูปแบบที่พัก และความสะดวกสบายก็จะต่างออกไป และที่สำคัญโลเคชั่นของแต่ละที่ ไม่เหมือนกันด้วย ซึ่งทริปนี้พวกเราได้พักที่ Panvaree Resort ซึ่งเป็นแพ ที่ตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณ ภูเขาที่เป็นผาหินปูน และรายล้อมไปด้วยป่าไม้ ที่อุดมสมบูรณ์มากๆ ซึ่งถ้าหากเปรียบเทียบกับที่พักอื่นๆแล้ว ที่นี้จะได้บรรยากาศที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติสุดๆ

 

Panvaree Resort

ที่เห็นในภาพ ที่พักสีส้ม คือของ Panvaree Resort นะครับ ส่วนที่พักถัดไป คือ Panvaree Greenery ดังนั้นอย่าจำสับสนนะครับ ส่วนเว็ปไซต์ก็คือ https://www.panvaree.com ครับ

การมาพักครั้งนี้เราได้ห้องพักแบบ Garret house king ซึ่งสามารถพักได้ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป มากสุด 5 คน ห้องพักเป็นแบบ 2 ชั้น ชั้นบนเป็นเตียงนอน นอนได้ 3 คน ซึ่งสามารถเดินขึ้นบันไดภายในห้องได้เลย

สิ่งที่พิเศษที่สุดสำหรับผมเมือได้เข้าพักก็คือส่วนนี้นั้นเอง เป็นจุดที่สามารถนั่งเล่นพักผ่อนดูวิวหุบเขาที่อยู่รามล้อมได้อย่างจุใจสุดๆ ทั้งด้านหน้า 180 องศา และข้างหลังที่พักที่เป็นผาหินปูนแม่ป่าไม้

ช่วงที่แนะนำอยากให้มานั่งพักผ่อนชมวิวก็คือช่วงพระอาทิตย์ตกดิน หากใครไม่อยากนั่ง สามารถลงไปนอนบน ตะแกรงตาข่ายถ่ายรูปเท่ๆ กับวิวเจ๋งๆก็เก๋ไปอีกแบบ

ห้องพักมีอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไว้ให้บริการ มีทั้งเสื้อชูชีพไว้ให้ใส่ไปเล่นน้ำหน้าห้อง หรือจะเป็นร่มก็มีพร้อมไว้ยามฝนตกหน้าที่พัก

แพคเกจ 3 วัน 2 คืนที่เราชื้อ มีอาหารบริการ 6 มื้อตลอดเวลาที่เราพัก ซึ่งอาหารจะเป็นอาหารไทย ทำใหม่ๆเลย เมนูที่ผมชอบที่สุดคือ แกงเหลืองหน่อไม้ซึ่งอร่อยสุดๆ รวมทั้งเมนูปลาทอดทั้งหลาย

เมนูอาหารเช้า ก็จะเป็นอะไรง่ายๆหน่อย จะเป็นข้าวผัด และไข่กระทะ ซึ่งไม่ธรรมดาเลย อร่อยมาก เครื่องจัดเต็มจริงๆ

บรรยากาศบริเวณนั่งทานข้าว ใกล้ๆมีบาร์ไว้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีทั้งเบียร์ เหล้า และไวน์ ด้วย

เมนูต่างๆ ภายในรีสอร์ท สามารถสั่งไปส่งที่ห้องได้ด้วย

Activity

ถ้ำปะการัง เขื่อนเชี่ยวหลาน เป็นกิจกรรมแรกที่เมื่อเราเดินทางมาถึงที่พัก เชคอิน เก็บของเรียบร้อยแล้ว ก็เตรียมตัวออกเรือ ประมาณช่วงบ่าย เดินทางไปยังจุดเดินป่า ซึ่งระยะทางประมาณ 1 กิโลกว่าๆ

ตั้งแต่ออกมาจากรีสอร์ทเราก็เจอฝนเทกระหน่ำตลอดทาง จนถึงจุดเดินป่าก็ยังมีฝนตกอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าสนุกจริงๆ ส่วนตัวไม่ได้เดินป่ามานานแล้ว แม้เส้นทางนี้จะไม่ยากเลย แต่ก็สนุกไปอีกแบบครับ

ก่อนเดินเข้าต้องเสียค่าธรรมเนียม คนละ 20 บาทและจดชื่อก่อนเดินเข้าป่า

ภาพบรรยากาศสภาพแวดล้อมระหว่างเดิน ข้อดีของฝนตกคือ อากาศที่เย็นสบาย เดินได้เรือยๆ ไม่เหนือยเลย

เดินมาสักพักก็ถึงจุดขึ้นแพเพื่อไปยัง ถ้ำปะการังซึ่งอยู่ไม่ไกลเลย

แพที่เราจะใช้เดินทางกัน ซึ่งหน้าตาดีมาก ดูปลอดภัยในระดับนึง มีที่นั่งให้นั่งสบายๆครับ

เมือออกมาจากท่าเรือแล้ว จุดหมายเราอยู่แค่ฝั่งตรงข้ามเองครับ

เมื่อเดินขึ้นมาก่อนเข้าถ้ำและเมื่อหันหลังออกมา ก็จะเห็นมุมประมาณนี้ซึ่งสวยงามดีครับ เห็นหมอกอยู่ตามภูเขาหลายลูกเลย

ถ่ายรูปหน้าจุดชมวิวหน้าถ้ำเป็นที่ระลึกซะหน่อย

ภาพบรรยากาศภายในถ้ำปะการัง ภายในมืดมาก ต้องไปกับไกด์เท่านั้น ซึ่งไกด์จะเป็นคนเดินส่องไฟไปยังห้องต่างๆภายในถ้ำ ขออนุญาตใช้ภาพ จากคุณ siritep

กิจกรรมล่องเรือชมกุ้ยหลินเมืองไทย/เขาสามเกลอ

กิจกรรมล่องเรือทางรีสอร์ทแนะนำให้ออกตั้งแต่ 6:30 เพื่อชมทะเลหมอกตอนเช้า ซึ่งไม่ผิดหวังจริงๆ ระหว่างทาง เราได้เห็นความสวยงามของธรรมชาติ ถ่ายรูปกันเพลินมากๆ สามารถบอกคนขับเรือของรีสอร์ทได้เลยนะว่าอยากไปจุดไหนเป็นพิเศษมั้ย หรือ หยุดเพื่อถ่ายรูป ชอบมุมไหนบอกเขาได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ

ช่วงที่ไปนักท่องเที่ยวน้อยมากๆ คนขับเรือบอกว่า ถ้าหากมาก่อนช่วงโควิค นักท่องเที่ยวจะเยอะมาก เรือวิ่งกันให้ว่อนเลย ช่วงนี้จึงเป็นโอกาสอันดี ให้เราได้ดื่มด่ำกับจุดถ่ายรูปแต่ละจุดได้อย่างเต็มอิ่ม โดยไม่ต้องเร่งรีบเลย

เขาสามเกลอ จุดเชคอิน ที่เมื่อใครมาก็ต้องแวะมาชมกัน จุดนี้คนขับจะปล่อยให้พวกเราได้ถ่ายรูปกัน

พายเรือคายัค

กิจกรรมที่ควรค่าแก่การเล่นเมื่อมาพักที่ Panvaree Resort นั้นก็คือ พายเรือคายัค นั้นเอง หากนั่งอยู่ว่างๆไม่มีไรทำ ก็สามารถแจ้งทางพนักงาน ให้ช่วยจัดเรือได้ เราว่ามันสนุกมากๆ สามารถพายเรือไปไหนก็ได้ สำหรับเรา เราว่าแถวนี้มีตอไม้ผุดขึ้นมาเหนือน้ำเยอะมาก มีมุมถ่ายรูปสวยๆเยอะแยะมากมายเลย

น้ำในเขื่อนเชี่ยวหลานมีสีฟ้าใสราวกับคริสตัล ใสมากๆ ยิ่งพายออกไปไกลๆ จะเห็นความใสของน้ำได้อย่างดีเลย

ชมดาวบนท้องฟ้า

คืนที่ 2 ที่เราพัก เป็นคืนที่พระจันทร์เต็มดวง ออกมาส่องแสงให้ค่ำคืนที่มืดมิด สว่างขึ้นมา ให้เราได้เห็นดวงดาวที่อยู่บนท้องฟ้า ภาพนี้เราถ่ายตอน 5 ทุ่ม ท้องฟ้าช่วงที่เราไป ยังมีเมฆเยอะ เลยไม่สามารถเห็นดาวได้ทั่วท้องฟ้า ถ่ายรูปไปสักพักเมฆก็ลอยมาปิด

แสงไฟรีสอร์ทยามค่ำคืน แสงจันทร์สว่างมาก จนถ่ายออกมานึกว่าตอนกลางวัน

มีเมฆหมอกลอยมา เสริมความงามให้กับภูเขาที่อยู่ตรงหน้าที่พัก

บรรยากาศยามเช้า

หลังจากที่เมื่อคืนเราพยายามนั่งเฝ้าถ่ายดาว ตอนเช้าก็สวยไม่แพ้กัน เราตื่นขึ้นมาตอน 6 โมงเช้า เราก็เจอภาพที่อยู่ตรงหน้า หลังที่เราอยู่ เป็นหลังที่ 5 เป็นมุมที่คิดว่าสวยที่สุดแล้ว

บรรยากาศเงียบสงบ สามารถให้เรือที่รีสอร์ทออกไป ชมความงามใกล้ๆได้เลยนะ มันเป็นช่วงเวลาที่ดีจริงๆ

มุมนั่งชิล เงียบสงบ การตื่นเช้ามาแล้วเห็นอะไรแบบนี้ เป็นอะไรที่ประทับใจที่สุดเลย

“ช่วงเวลาดีๆ”

มุมนั่งทานอาหารเช้า วันสุดท้ายก่อนกลับกรุงเทพ มุมนี้เป็นมุมที่ดีที่สุดเลย กับการนั่งทานอาหาร และชมวิวไปด้วยพร้อมกัน 🙂

อาหารเช้าวันสุดท้ายก่อนกลับจัดเต็มเช่นเคย

จบแล้วการรีวิวเที่ยว เขื่อนเชี่ยวหลาน 3 วัน 2 คืนของผมและนัท หวังว่ารีวิวอันนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจเดินทางมาที่นี้นะครับ

ทริปนี้เราชื้อแพคเกจ 3วัน 2 คืนกับทางรีสอร์ท Panvaree Resort สำหรับใครที่สนใจพัก ตอนนี้ทางรีสอร์ทมีโปรโมชั่นพิเศษด้วย

ราคาโปรโมชั่นตอนนี้
แพ็คเกจ 2วัน1คืน
2-3ท่าน/ห้อง ราคาท่านละ 3,590
4-5ท่าน/ห้อง ราคาท่านละ 3,290
แพ็คเกจ 3วัน2 คืน
2-3ท่าน/ห้อง ราคาท่านละ 7,150
4-5ท่าน/ห้อง ราคาท่านละ 6,550

ฟรีรถรับส่งสนามบินสุราษฎร์ธานี (มูลค่าประมาณ 1,300 บาท)
รับ 10.00 ส่ง 13.30

พิเศษสำหรับผู้ที่สนใจจากการอ่านรีวิวของ Twin Traveller

แจ้งโค้ด “Twin Traveller” กับพนักงาน ลดเพิ่ม 5% ทุกรายการเลย

จองผ่าน Line @panvaree_resort