สวัสดีครับ กับเส้นทางที่เป็นเส้นทางในฝันของผมเลยก็ว่าได้ ตั้งอยู่ในทวีปตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป นั้นก็คือเมือง Spain – Portugal สองเมืองนี้ และเมืองต่างๆ ที่เราจะไปกันก็คือ Porto – Lisbon – Seville – Bacelona – Toledo – Medridd ตามลำดับเลย

โดยแพลนการเดินทางของเรานั้นจะไม่เร่งรีบ ตั้งใจไว้ว่าจะอยู่เที่ยวแต่ละเมืองประมาณ 2-3 วัน ให้ได้ เพื่อซึบซับบรรยากาศของแต่ละเมืองบ้าง เพราะแต่ละเมืองนั้นมีความสวยงาม และสิ่งที่น่าสนใจแตกต่างกันออกไป หากพร้อมแล้วไปดูกันเลยดีกว่า

การเดินทาง

ทริปนี้พวกเราได้ตั๋วเครื่องบินราคาโปรเช่นเคย เลยทำให้เกิดทริปนี้ได้ ในราคา 14,000 บาทเท่านั้น แต่ต้องขึ้นจากสนามบิน Hong Kong เท่านั้น เราเลยต้องชื้อตั๋วเครื่องบินจาก กรุงเทพ ไป ฮ่องกง อีกประมาณ 2,000 บาท รวมๆกันแล้ว 16,000 บาท ก็ถือว่าไม่แพง ราคารับได้อยู่ 

เราเดินทางโดยสายการบิน Etihad Airways ดังนั้นจึงรับประกันได้เลยว่า การเดินทางนั้นราบรื่นแน่นอน เวลาบินแต่ละที่สวยมาก ไม่ต้องต่อเครื่องนาน และสิ่งอำนวยความสะดวกบนเครื่องนั้นดีมากๆ รู้สึกสบาย เมื่อต้องเดินทางเกือบ 10 ชั่วโมงแต่ละเที่ยว รู้สึกประทับใจมากครับ

Internet Wifi

Processed with VSCO with hb2 preset

Processed with VSCO with hb2 preset

Tripizee Pocket Wifi : หลังจากมีคนถามมาหลายคนว่า ใช้อินเตอร์เน็ตไวไฟเจ้าไหนดี ทั้งเอเชีย และยุโรป ส่วนตัวเราเราใช้ของTripizee ตลอด ทั้งทริปใต้หวัน, จีน , ยุโรปหลายประเทศ, มาเลย์ , สิงคโปร์ ต้องขอบอกว่า อินเตอร์เน็ตแรงจริงๆ สามารถอัพโหลดไฟล์ภาพ เล่นเน็ตได้เต็มที่สุดๆ และสามารถแชร์ได้สูดสุด 6-7 คนเลยทีเดียว สิ่งที่เราชอบมากสุดๆก็คือ แบตเตอรี่ที่เยอะมากๆ เดินเปิดทั้งวันหมดไปแค่ครึ่งหลอด (จริงๆ มันสามารถเป็น Powerback ได้ด้วย คุ้มสุดด) แต่อาจจะมีดับบ้างเป็นบางครั้ง เมือเจออากาศที่เย็นจัด หรือ ร้อนจัด แต่สามารถเปิดใช้ใหม่ได้ ราคาแต่ละประเทศไม่แพงเลยครับ เมื่อเทียบกับเจ้าอื่นๆ

DAY 1 – 2 – 3 Porto ( Portugal )

เรามาเริ่มที่แรกกันเลยดีกว่ากับเมือง Porto เมืองท่าโบราณเมืองปอร์โต้ (Porto) ที่ประเทศโปรตุเกส ถ้าอ่านแบบโปรตุเกสจะอ่านว่า ปอรตู เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับสองรองจากลิสบอน ตั้งอยู่ทางเหนือของโปรตุเกส มีแม่น้ำดูโร Douro ไหลผ่าน เมืองแห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องไวน์ด้วยครับ เพราะฉะนั้นใครที่เป็นคอดื่มด้วยอยู่แล้ว ต้องห้ามพลาดเลยทีเดียวเมื่อมาถึงที่นี้ บ้านเรือนที่นี้จะเป็นแบบสมัยเก่า หลังคาบ้านสีส้ม ได้อารมณ์คลาสสิคมากเลยทีเดียว ปอนโต้ เป็นเมืองที่สงบมากในความคิดของเรา เราใช้เวลาอยู่ที่นี้ 3 คืนเลย เพื่อซึมซับบรรยากาศกับมันให้ได้มากที่สุด.

Ponte Dom Luís สะพานแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองเลยทีเดียว สะพานเหล็กขนาดใหญ่ จุดเด่นอยู่ที่การเป็นสะพานสองชั้น ข้างบนเป็นทางของรถราง ข้างล่างเป็นรถวิ่งปกติ เราชอบเดินทั้งข้างล่าง และข้างบน หากเราเดินข้ามแม่น้ำ จากข้างล่าง เราจะสามารถมองเห็นโครงสร้างของสะพานได้อย่างเต็มตา และวิวที่สวยงาม และถ้าหากเดินข้างบนก็ จะสามารถมองเห็นวิวมุมสูงของเมืองที่กว้างใหญ่ และสวยงามอีกมุมนึง และยังเดินต่อไปจุดชมวิวที่สวยงามอีกจุดได้อีกด้วยนั้นก็คือ Igreja da Serra do Pilar ได้อีกด้วย

วิวเมือง Porto ยามค่ำคืนจากจุดชมวิว Igreja da Serra do Pilar สามารถมองได้ไกลจนถึง Ponte d’Arrábida เลยทีเดียว

Cais da Ribeira ย่านท่าเรือโบราณ เป็นจุดค้าขายของเมือง และยังได้ตั้งเป็นพื้นที่มรดกโลกอีก อยากแนะนำให้มาชมบรรยากาศตอนเช้าพระอาทิตย์ขึ้น และ ตกดินที่นี้ บรรยากาศเย็นสบาย มีดนตรีเพราะๆให้ฟัง นั่งชมวิวเพลินๆ

ด้านหน้าคือ Saint Anthony’s Church ส่วนด้านขวามือคือ São Bento Train Station สถานีรถไฟที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองครับ

São Bento Railway Station : อีกที่ที่น่าสนใจครับ โปรตุเกสนี่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ชอบมากก ยิ่งสถานนีรถไฟที่นี่เก่าแก่มากครับเพราะสร้างขึ้นใน พ.ศ. 2416 เป็นสถานีประวัติศาสตร์ มีกระเบื้องตกแต่งในสถานีแสดงถึงฉากประวัติศาสตร์ของโปรตุเกส ตั้งอยู่ในจัตุรัส Almeida Garret Square ในใจกลางเมือง เดินเข้ามาครั้งแรกรู้สึกถึงความกว้างและใหญ่มาก วัสดุในอาคารบางส่วนยังคงดูเป็นของเก่าอยู่ ดูผสมผสานของเก่าของใหม่ได้ดีมากๆครับ

Capela das Almas : หรืออีกชื่อที่เรียกคือ Chapel of Santa Catarina เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวอีกที่นึงที่ผมว่าต้องห้ามพลาดเลยครับ ผมมาเห็นครั้งแรกแลัวชอบมากๆดูแปลกตาดี ด้วยที่ตัวกำแพงด้านนอกของโบสถ์จะถูกปกคลุมเกือบทั้งหมดด้วยกระเบื้องเซรามิคสีน้ำเงินและสีขาวซึ่งแสดงถึงฉากต่างๆ เช่นความตายของนักบุญฟรานซิสแห่งอัสซีซีและการเสียสละของซานตาแคตารีนา (โบสถ์ที่อุทิศให้กับซานตาแคตารีนา) มันทำให้สถานที่นี้มีเรื่องราวที่น่าสนใจดีครับ แวะดูได้เพลินๆเลย

มุมจาก Porto Cathedral สามารถมองเห็นบ้านเรือนของชาว Porto ที่สวยงาม และยังเป็น Clérigos Tower ตั้งเด่นอยู่อย่างชัดเจน

ย่านร้านอาหาร ร้านขายของที่ละลึก บ้านเรือนที่นี้จะเป็นทรงแบบโบราณ

ตลาดสด Mercado de Bolhão เป็นตลาดโบราณที่เก่าแก่ของเมืองแห่งนี้ ด้านในมีพวกของสด ผัก ผลไม้ขาย อื่นๆก็จะเป็นขนมปังต่างๆ และพวกไวน์องุ่นรสชาติดีเยื่ยมและทีสำคัญไม่แพงเลย แนะนำให้มาช่วงเช้า มาดูชีวิตของคนที่นี้มาเดินชื้อของกัน เป็นอะไรที่ดีจริงๆเลยครับ

รอบๆตลาดสด Mercado de Bolhão มีร้านเบเกอรี่ตกแต่งสวยงาม และมีขนมน่ากินเยอะแยะมากมาย ทาร์ตไข่แถวนี้ไม่แพงและอร่อยมากกก บอกเลย

Clérigos Church ซึ่งที่นี่มีจุดเด่นคือมีหอคอยสูงที่ไว้สำหรับชมวิวเมืองปอร์โต้ได้ เป็นอีกที่ที่สวยงามมากๆ

 

มุมมองจากบนสะพาน Ponte Dom Luís

 เมืองที่ 2 ของประเทศโปรตุเกสนั้นเอง แน่นอนว่า หากไม่มาลิสบอนก็คงมาไม่ถึงประเทศโปรตุเกส เมืองที่ติดชายทะเล บรรยากาศดี และเป็นเมืองแห่งรถรางอีกด้วย หากใครชอบความคลาสสิคแบบนี้แล้ว ที่นี้คงตอบโจทย์ของคุณได้ดีเลยทีเดียว

เมืองลิสบอน มีจุดชมวิวหลายจุดเยอะแยะมากมาย แต่มีจุดนึงที่ผมอยากจะแนะนำเลย ก็คือ Miradouro das Portas do Sol นั้นเอง เป็นจุดที่สามารถมองเห็น Landmark ต่างๆ ของที่นี้ เห็นทะเลด้ว บรรยากาศดีสุดๆเลย การเดินทางมาที่นี้สามารถนั่งรถสาย 28E ได้เช่นกันครับ

“เซบียา” หนึ่งในจังหวัดสำคัญ เป็นจุดเด่นของสเปน ของขึ้นชื่อของเมืองแห่งนี้คือ เหล้าเชอรี่ วัวกระทิง หรือระบำฟลามิงโก !! บ้านเมืองที่นีเจะแตกต่างไปจากเมืองอื่นๆ ที่ได้พบเจอเลยทีเดียวในสเปน เพราะยังคงเป็นแบบสมัยก่อน

เหมือนหลุดเข้ามาในอดีตเลยทีเดียว ในส่วนของเมืองเก่า จะต้องเดินเข้าไปยังซอยแคบๆ ข้างในก็จะมีร้านอาหาร ร้านขายของฝาก โรงแรมต่างๆ ด้านในเดินชมเพลินมากๆเลย

Plaza de toros de la Real Maestranza de Caballería de Sevilla เป็นสถานที่นึงที่มีความสำคัญของเมืองแห่งนี้มากๆ เพราะมันเป็นสนามสู้วัวกระทิงนั้นเอง แต่เสียดายมากๆ ตอนเราไป เขาปิดปรับปรุงพอดี เลยไม่สามารถเข้าไปถ่ายด้านในสนามสู้วัวกระทิงได้ เลยได้แต่เก็บภาพถ่ายด้านนอกมาให้ชมกัน

Giralda เป็นหอคอยที่สร้างโดยพวกมุสลิม สูง 90 เมตร นับเป็นสถาปัตยกรรมแบบอิสลามที่สมบูรณ์อันหนึ่งในสเปน การขึ้นไปจุดสูงสุดบนหอคอยจะทำให้คุณสามารถเห็นวิวโดยรอบของ Seville ได้ แต่เตรียมมาดีๆนะครับ เพราะเหนือยเอาการเลย ค่อยๆขึ้น วิวข้างบนสวยจริงๆ และที่สำคัญขึ้นฟรีด้วย

Seville Carthedral เดิมเป็นมัสยิสต์มาก่อนจนภายหลังจากที่ชาวมัวร์พ่ายแพ้แก่คริสเตียน ก็เปลี่ยนเป็นโบสถ์แทนในปี คศ 1248 และถูกก่อสร้างเพิ่มเติมจนแทบไม่เหลือเค้าของเดิมนอกจาก หอคอย Giralda อันมีชื่อเสียง

ภายในโบสถ์ดูใหญ่โตกว่าที่เห็นภายนอกมาก มันสวยแบบว่าร้องว้าวเลย ปกติแล้วเวลาดูอะไรแบบนี้ ผมจะรีบๆ เดินดูแบบผ่านๆให้มันจบไป แต่นี่ ผมต้องยืนมองดูอยู่นานเลย กว่าจะละสายตาไปจากจุดๆนึงได้ แนะนำให้เสียเงินเข้ามาชมเลยครับ

จากที่นั่งหาข้อมูลก่อนมาที่นี้รุ้สึกว่าภายใน Cahtedral แห่งนี้จะเป็นที่บรรจุพระศพของพระสงฆ์คริสต์อยู่หลายๆรูป และว่ากันว่าภายในมีศพของ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักเดินทางผู้ยิ่งใหญ่ที่ค้นพบทวีปอเมริกา ฝังอยู่ภายในด้วย

ในที่สุดก็เดินทางมาถึงเมืองบาร์เซโลนาเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวยามราตรีที่รื่นเริงสนุกสนาน บาร์เซโลนามีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่สำคัญมากมาย เป็นเมืองที่ไม่มีวันหลับไหลจริงๆ เรามาเมืองนี้เพราะ La Sagrada Familia เลยทีเดียว อยากถ่ายภาพมหาวิหารเก็บไว้

La Sagrada Familia โบสถ์ที่สร้างไม่เสร็จนี้เป็นสัญลักษณ์ของบาร์เซโลนา แม้จะเป็นงานชั้นยอดที่แสดงถึงอัจฉริยภาพของ อันโตนี เกาดี้ สถาปนิกผู้เลื่องชื่อ แต่ก็ยังมีการโต้เถียงกันอยู่ถึงการออกแบบที่เป็นโมเดิร์นโดยเฉพาะหอคอยที่มีเครนค้ำเด่นเห็นชัด ซึ่งทุกวันนี้มีคนแห่กันไปดูโบสถ์นี้กันล้นหลาม ลา ซากราดา ฟามิเลีย มีความสูง 170 เมตร ตั้งอยู่บนถนน Carrer de Mallorca งานชิ้นนี้มีความแปลกตาจากงานชิ้นอื่นของเกาดี้ ตรงสีสันอันเรียบนิ่งแบบโทนสีธรรมชาติ ให้ความรู้สึกที่สงบผ่อนคลายและเยือกเย็นเ พราะความที่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็ยังคงรายละเอียดละเมียดที่ละไม ดูจากลวดลายสลักเสลาที่ด้านนอกตัวโบสถ์และภายใน แสดงให้เห็นถึงแรงศรัทธาในศาสนาอย่างท่วมท้น สมกับเป็นงานชิ้นสุดท้ายที่เขาอุทิศตนให้กับศาสนจักร ก่อนจะสิ้นลมใต้เงาของยอดโบสถ์นั่นเอง

Park Guell สวนกูเอลเป็นหนึ่งในงานสุดรักที่เกาดี้มอบให้บาร์เซโลนาตั้งอยู่บนเนินเขา Mont Pelat ครอบคลุมพื้นที่ 92.5 ไร่ เป็นจุดชมวิวเมืองที่อากาศสดชื่นและมีความงดงามอยู่ในตัวเอง ใครที่เข้าไปถึง สถานที่นี้เป็นต้องรู้สึกว่าหลุดเข้ามาในดินแดนเทพนิยาย ด้วยรูปแบบของสถาปัตยกรรมงานกระเบื้อง ที่เน้น รูปทรงธรรมชาติในสีสันที่ตัดกัน ดูสนุกสนาน แปลกตาและชวนฝัน ชนิดที่เข้าไปอยู่ทั้งวันก็ไม่เบื่อ

Casa Batllo หนึ่งในสามของกลุ่มอาคารที่ Manzana de la Discordia หรือ “กลุ่มอาคารแห่งความขัดแย้ง” บนถนน Passeig de Gracia ประกอบด้วย Casa Amatller อาคารรูปสามเหลี่ยมออกแบบโดย โฮเซป ปูอิก อี คาดาฟาล์ช มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบดัตช์และเบลเยี่ยมกับรายละเอียดแบบโกธิก Casa Lleo Morera ออกแบบโดย ลูอิส โดเมเนซ อิ มอนตาเนอร์ เพียบไปด้วยรายละเอียดที่อ่อนหวานแบบหญิงสาว โดยเฉพาะโดมบนยอดตึกทรงเค้กแต่งงานประดับมงกุฎ เทียบกันตอนนี้คาซา บัทโล นั้นเด่นที่สุด ด้านนอกอาคารตกแต่งด้วยเทคนิคแบบเทร็นคาดิส รูปแบบอาคารที่ใช้สีเข้มและดูพลิ้วไหวเทียบเท่ากับภาพวาดอิมเพรสชันนิสท์ทั้งยังแวววาวดุจอัญมณี

ขอบคุณข้อมูลจาก http://rhungthip.blogspot.com/

มาเมืองนี้เพราะภาพอยากได้ภาพหน้าปกแบบนี้จริงๆ โดยส่วนตัวแล้วเราชอบประวัติศาสตร์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และเมืองนี้นี่เอง ที่องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้เมืองนี้เป็นแหล่งมรดกโลก เนื่องจากมีมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างมากมาย ในสมัยก่อนเมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยอัศวินสวมชุดเกาะเหล็กเดินไปมาทั่วเมือง เท่มาก เลยอยากมาให้เห็นกับตาตัวเองสักครั้ง ว่าหน้าตาของเมืองแห่งนี้จะเป็นอย่างไร

ถ้าถามว่าชอบเมืองไหนที่สุดของประเทสสเปน ก็ต้องบอกเลยว่าเมือง Toledo เป็นเมืองที่ชอบมากที่สุด เพราะเมืองแห่งนี้จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สูงเป็นพิเศษ คือมันจะต่างจากเมืองยุคกลางแบบโกธิคของยุโรปที่เคยไปมา สภาพภูมิประเทศเป็นแนวที่ราบสูงแห้งแล้ง บ้านเรือนหรือตัวปราสาทส่วนใหญ่จะสร้างด้วยหิน และเน้นใช้สีไปทางเหลืองซีด เลยทำให้เมืองมีสีสันไปในทิศทางเดียวกัน มีความกลมกลืนน่ามอง บางมุมของเมืองเราอาจจะสัมผัสได้ถึงอารยธรรมมุสลิม (ชาวมัวร์ มุสลิมจากแอฟริกาเหนือ) เพราะสมัยก่อนเมืองแห่งนี้ก็เคยโดนชาวมัวร์บุกยึดเมืองนี้ได้อยู่พักใหญ่ๆก่อนที่จะถูกยึดกลับคืนมาได้ และเมือง Toledo แห่งนี้ยังได้เป็น UNESCO World Heritage อีกด้วย จึงเป็นอีกที่ที่ไม่เคยพลาดเลยครับ ถ้าใครได้มาเที่ยวสเปน

สำหรับใครที่ได้มาเที่ยวเมือง Toledo แลัวอยากหาจุดชมวิวเมือง ดื่มด่ำกับบรรยากาศดีๆ ทั้งตอนช่วงเย็นและจนไปถึงช่วงค่ำ ที่เมืองจะเปิดไฟสว่างสวยงามไปทั่วทั้งเมือง ผมอยากแนะนำ 2 จุดชมวิวนั้นก็คือ Mirador Del Valle กับ Piedra del Rey Moro 2 จุดนี้อยู่ใกล้กันครับ แต่มุมมองจะต่างกันตรงจุดชมวิวที่ 2 อาจต้องเดินขึ้นเขาไปดูวิวข้างบนหน่อย ซึ่งสำหรับผมแลัว ถ้าได้มาถึงที่นี้ ก็จัดไปซะ 2 จุดชมวิวเลยครับ สวยงามมากครับ คุ้มค่าจริงๆ

Madrid เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสเปนจุดหมายสุดท้ายของทริป เมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่ผู้คนหนาแน่น ร้านอาหารดีๆเยอะแยะมากมาย สถานที่ท่องเที่ยวล้วนแล้วน่าสนใจทั้งนั้น

ย่าน Sol Station เป็นย่านที่พักโรงแรมต่างๆมากมาย รวมถึงร้านอาหารที่น่าจะลิ้มลอง อยู่ที่นี้ไม่ต้องกลัวอดตาย เพราะมีให้เลือกมากมายจริงๆ ทั้ง อาหารแบบแขก อินเดีย หรืแร้านอาหารจีนแถวนี้มีหมด รวมถึงร้านไอติมอร่อยๆ ย่านแห่งนี้ถือว่าเป็นย่านท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้ เพราะมีร้านค้าแบรนด์เนมหลากหลายแบรด์ให้เลือกชมกัน ราคาถือว่าใกล้เคียงกับที่ไทยพอสมควร

สิ่งที่พบเห็นได้บ่อยครั้งคือ คนขายของริมทางแบบนี้ครับ จะเป็นคนผิวสี มายืนริมถนน โดยการขายของเขาจะเป็นการวางผ้าบนพื้น แล้วเอาของวางขายยังงั้นเลย ราคาไม่แพงก็จริง แต่ก็ไม่ถูกกฏหมาย ยืนดูเขาขายไปสักพัก พอรถตำรวจขับมาถึงใกล้ๆ พวกเขารีบรวบผ้า แล้ววิ่งหนีเลย พอรถตำรวจผ่าน ก็กลับมาวางขายไป

Plaza Mayor เหมือนเป็นศูนย์รวม ร้านค้า ร้านอาหารต่างๆอยู่ในนี้ ถือเป็นจตุรัสที่ใหญ่พอสมควร ตัวอาคารของพลาซ่า เป็นสีแดง แนะนำมาให้กัน ตั้งแต่ช่วงเย็น ถึงตอนค่ำ เพราะจะเปิดไฟสวยงามมากๆ นั่งจิบชากาแฟตรงนี้ ดูชีวิตคนแถวนี้ก็ไม่เลวเลย

Mercado de San Miguel เป็นตลาดเก่าโบราณที่ตกแต่งยังเข้ากับยุคสมัยนี้ ซึ่งดูไม่เก่าเลย หากใครที่อยากลองอาหารพื้นเมืองของที่นี้ ที่นี้มีให้ลิ้มลองเต็มไปหมด ราคาถือว่าไม่แพงมาก จะมีพวกไวน์ แฮม และ ทาปาส เราได้เข้าไปลลองแล้ว อร่อยมากๆ พวกทาปาส กิบกับไวน์เข้ากันดี และข้าวผัดสเปนที่รสชาติอร่อยใช้ได้เลยทีเดียว

Gran Vía, ในภาษาสเปนนั้นแปลว่า ถนนสายหลัก ซึ่งเป็นถนนเศรษฐกิจเส้นสำคัญของแมดริด ทอดยาวกลางตัวเมือง และมีร้านค้าเรียงรายอยู่สองข้างทาง โดยเป็นที่รู้จักกันดี ว่าเป็นแหล่งช้อปปิ้งเสื้อผ้าแฟชั่น ห้างสรรพสินค้า และร้านอาหาร รวมถึงโรงภาพยนตร์ที่ตั้งอยู่ที่ถนนเส้นนี้มายาวนาน ถ้าใครที่ชื่มชอบทางสถาปัตยกรรม จะมีความสุขเมื่อได้เดินไปบนถนน Gran Vía สิ่งก่อสร้างที่นี่มีตั้งแต่ยุค นีโอ บาร็อค ไปจนถึง อาร์ต นูโว เมื่อเดินมาถึงกลางทางจะได้พบกับอาคาร Telefónica ขนาดใหญ่ และ ตัวเมืองที่สวยงามน่าประทับใจ คุ้มค่ากับการเที่ยวชม

มุมนี้ถ่ายจาก Tartán Roof จุดนี้สามารถชมวิวของเมือง Madrid ได้เกือบ 360 องศาเลยทีเดียว สวยงามมากๆเลยครับ ถือว่าคืนนี้เป็นสุดท้ายเลยในการเดินทางของทริป สเปน และ โปรตุเกส ก็ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านกันนะครับบ

ทริปนี้เราเลือกใช้บริการจองที่พักผ่าน #Traveloka ที่สามารถเชคราคาโรงแรมต่างๆ ได้ในราคาที่ดี และทำเลที่ใช่ สะดวกสบายผ่าน Application ที่ใช้ง่าย สะดวก และยังสามารถจองตั๋วเครื่องบิน เปรียบเทียบราคาที่ดีที่สุด ได้ทั้งโลว์คอส หรือฟูลเซอร์วิส และยังมีโปรโมชั่นต่างๆ มากมายอีกด้วย

สามารถดูรายละเอียดห้องพัก Inside Madrid Luchana ได้ที่ https://www.traveloka.com/th-th/hotel/spain/innside-madrid-luchana-1000000427102

หรือจะ Download Traveloka App now! ได้เลย ใช้ไม่ยาก ช่วยให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น