สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมารีวิวกับเส้นทางในฝัน กับ เส้นทางยอดนิยมยุโรปตะวันออก 3 ประเทศ 6 เมือง โดยประเทศและเส้นทางของพวกเราจะมีดังนี้ Austria – Czech Republic – Hungary และเมืองต่างๆ ที่เราจะไปกันก็คือ Vienna – Hallstatt – Cesky Krumlov – Salzburg – Prague – Budapest ตามลำดับเลย
ก่อนจะไปชมรีวิวกันสำหรับใครที่สนใจ หรืออยากจะติดตาม เรื่องราวการเดินทางของพวกเราก็สามารถกดเข้าร่วมเพจกับพวกเราได้เลยนะครับ
Twin Traveller : Travel and Lifestyle.
Fan Page : https://www.facebook.com/TwinTraveller
Personal Website : https://twintravellerblog.com

โดยแพลนการเดินทางของเราะเป็นแบบไม่เร่งรีบ และทริปนี้ตั้งใจจะไปถ่ายรุปด้วยตามจุดต่างๆที่เราตั้งไว้ เลยเผือเวลาพักตามเมืองต่างๆ เพิ่มขึ้นเผือวันใดวันนึงอากาศไม่เป็นใจ เราก็จะสามารถแก้ตัวในวันต่อไปได้ ดังนั้นพวกเมืองใหญ่ๆ เราจะอยู่ถึง 3 คืนเลยครับ
แผนการเดินทาง
14 April : เดินทางมาถึงสนามบิน Vienna International Airport (VIE) เวลา 11:25 AM
เดินทางเข้าที่พักในเมือง ย่าน Erlachgasse 86 Apartment Nähe Reumannplatz THB 13,589 1 ห้อง 3 คืน (ุ6 ท่าน) เดินเที่ยวในเมือง เวียนนาครึ่งวันช่วงเย็น
15 April : เดินเที่ยวในเมือง เวียนนาเต็มวัน
16 April : เดินเที่ยวในเมือง เวียนนาเต็มวัน
17 April : Check out ที่พัก Apartment Nähe Reumannplatz เวียนนา และเดินทางไปยังเมือง Hallstatt เดินทางเข้าที่พักในเมือง Cafe Restaurant zum Mühlbach THB 13,189 3 ห้อง 1 คืน (ุ6ท่าน) เดินเที่ยวเต็มวันในเมือง
18 April : Check out ที่พัก Cafe Restaurant zum Mühlbach แล้วเดินทาง ไปยังเมือง Salzburg เข้าที่พัก ACHAT Plaza Zum Hirschen THB 15,539 3 ห้อง พัก 2 คืน เดินเที่ยวทั้งวันในเมือง
19 April : เดินเที่ยวในเมือง ซาลซ์บูร์กเต็มวัน
20 April : Check out ที่พัก ACHAT Plaza Zum Hirschen แล้วเดินทาง ไปยังเมือง เชสกี ครุมลอฟ สาธารณรัฐเช็ก เข้าพักที่ Pension Meandr THB 4,396 จำนวน 2 ห้อง พักได้ห้องละ 3 ท่าน พัก 1 คืน เดินเที่ยวในเมืองเชสกี ครุมลอฟเต็มวัน
21 April : Check out ที่พัก Pension Meandr แล้วเดินทางไปยังเมืองปราก เข้าพักที่ ABC Suites THB 15,267 1 ห้อง เข้าพักได้ 6 ท่าน อยู่ 3 คืน เดินเที่ยวในเมืองปรากเต็มวัน
22 April : เดินเที่ยวในเมืองปรากเต็มวัน
23 April : เดินเที่ยวในเมืองปรากเต็มวัน
24 April : Check out ที่พัก ABC Suites แล้วเดินทางไปยังเมือง บูดาเปสต์ ประเทศฮังการี เข้าที่พัก Piano Castle Hill Apartments THB 10,791 จำนวน 1 ห้อง อยู่ได้ 6 ท่าน อยู่ 3 คืน เดินเทียวในเมืองบูดาเปสต์เต็มวัน
25 April : เดินเjavascript:void(0);ทียวในเมืองบูดาเปสต์เต็มวัน
26 April : เดินเทียวในเมืองบูดาเปสต์เต็มวัน
27 April : เตรียมตัวเดินทางไปยังสนามบิน Budapest Ferenc Liszt International Airport เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย
การเดินทาง
การเดินทางครั้งนี้ในการไปทวีปยุโรปได้ใช้บริการของ Qatar Airways ซึ่งเราตั๋วในราคาโปรโมชั่น เพียงแค่ 13,500 บาทต่อคนเท่านั้นเอง ในชั้น Economy ถือว่าถูกมากๆ กับสายการบินระดับ 5 ดาวระดับนี้ คุ้มเกินค่ามากครับ แต่ด้วยที่ต้องขึ้นจากสนามบิน Kuala Lumpur International Airport (KUL) เราจึงต้องจองตั๋วเครื่องบินตรงจากสนามบิน สุวรรณภูมิ ในราคาประมาณ 1,500 บาท ของสายการบิน Lion Air
เวลาถือว่าใช้ได้ ออกจากสนามบิน Kuala Lumpur International Airport (KUL) ตี 2 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7:30 ชั่วโมง เพื่อไปยังสนามบิน Hamad International Airport เพื่อต่อเครื่อง โดยใช้เวลาแค่เพียง 2:20 ชั่วโมงเท่านั้น ถือว่าเป็นเวลาที่ดีมากๆ รอไม่นานเกินไปครับ สนามบินสวย เดินทางสะดวกไม่หลงเลยครับ ถือว่าประทับใจมากๆเลย ในการเดินทางไปลงที่เวียนนา และขากลับของพวกเราก็คือ กลับจาก Budapest นั้นเองครับ สะดวกมากๆ ไม่ต้องนั่งกลับมาขึ้นที่เวียนนา ทำให้การเดินทางของพวกเรา สบายมากๆเลยครับ ไม่เหนือยดี
DAY 1 – 2 – 3 Vienna ( Austria )
เรามาเริ่มเมืองแรกของทริปเลยดีกว่านะครับ เวียนนาเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในออสเตรีย เป็นศูนย์กลางทั้งเศรษฐกิจและการปกครอง มีประชากรหนาแน่น สถานที่เที่ยวในเมืองแห่งนี้ก็จะมีหลากหลายนะครับ สวยงามแตกต่างกันไป ถือว่าน่าสนใจมากๆเลยสำหรับเมืองใหญ่แบบนี้ ผมเลยตั้งใจจะพักที่นี้ 3 คืนเลย เพื่อให้ดื่มด่ำแต่ละสถานที่ เพราะไม่อยากชะโงกแต่ละสถานที่ อยากเดินเที่ยวเรือยๆ มากกว่าครับ ส่วนการเดินทางในเมืองแห่งนี้ก็สามารถเดินทางได้โดย รถไฟฟ้าใต้ดิน และรถแทรมไฟฟ้า และก็รถบัสครับ สถานที่เที่ยวในเมืองนี้มีที่ไหนน่าสนใจบ้าง มาดูกันเลยดีกว่า
1. St Stephen’s Cathedral
ถือว่าสภานที่แห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองแห่งนี้เลยก็ว่าได้ ตั้งอยู่กลางใจเมือง ลักษณะเป็นโบสถ์ขนาดใหญ่ทรงสูง เห็นครั้งแรกด้านหน้าของโบสถ์มองขึ้นยังบนยอด แทบจะหน้ามืดเพราะมันสูงมากๆ เลย ด้านบนของโบสถ์จะเป็นยอดปลายแหลมๆ หลายยอด เป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่งดงามมาก
















บนถนนเส้นนี้มีโบสถ์ที่สวยมากแห่งหนึ่งชื่อว่า Peterkirche หากไม่มองดีๆจะเดินผ่านไปอย่างง่ายๆเลยนะครับ ดังนั้นต้องกังเกตุดีๆ เลยนะครับ โบสถ์แห่งนี้ซ่อนตัวอยู่ในซอกตึก ด้านในสามารถเดินเข้าไปชมได้ ไม่เสียค่าเข้าชมเลยนะครับ



DAY 4 Hallstatt ( Austria )
เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองริมทะเลสาบ ที่สวยที่สุดในโลก และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในประเทสออสเตรีย (Austria) อีกด้วย ซึ่งถ้าหากใครได้มาเที่ยวประเทศออสเตรียแล้ว ไม่มาเมืองนี้ถือว่าพลาดมากๆ แน่นอน เพราะเป็นเมืองผ่าน ไปยัง Salzburg ดังนั้นจึงเป็นสถานที่ที่ทุกคนต้องได้มาสัมผัสแน่นอน เมืองริมทะเลสาปแห่งนี้ มีสถานที่เที่ยวที่หลากหลาย จะมาเดินเที่ยว ครึ่งวันก็ได้ หรือจะนอนพักสักคืนก็ได้ จะได้มีเวลาเดินเที่ยวแบบเจาะลึก และได้มีโอกาสเข้าเหมืองเกลือบราณที่มีอายุมากกว่า 7,000 ปี โดยการขึ้นกระเช้า







DAY 5 – 6 – 7 Salzburg ( Austria )
เป็นอีกหนึ่งเมืองในฝันที่อยากเดินทางไปเห็นด้วยสายตาตัวเองมากๆ เมือง ซาลซ์บูร์ก เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดลำดับที่ 4 ในประเทศออสเตรีย เมืองเก่าของซาลทซ์บูกร์กและมีสถาปัตยกรรมแบบบาโรกเป็นหนึ่งในใจกลางเมืองที่ถูกดูแลรักษาอย่างดีที่สุด ในส่วนของ Old Town และยังได้รับขึ้นเป็นมรดกโลกอีกด้วย อีกทั้งเมืองนี้ เป็นบ้านเกิดของโวล์ฟกัง อะมาเดอุส โมซาร์ท ซึ่งเป็น เป็นนักประพันธ์ดนตรีคลาสสิกชาวออสเตรียที่มีชื่อเสียงก้องโลก อีกด้วย









DAY 8 Cesky Krumlov ( Czech Republic )
จากออสเตรียตอนนี้เดินทางข้ามประเทศมาถึง เชสกีกรุมลอฟ แล้ว เมืองเล็กๆ ในภูมิภาคโบฮีเมียใต้ของสาธารณรัฐเช็ก มีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรม แลแน่นอน เมื่อมาถึงแล้วต้องเห็น้บานหลังคาสีสัมๆ เยอะแยะมากมาย ถ้าไม่เห็นแปลว่ายังมาไม่ถึง เชสกีกรุมลอฟ วันที่เราไปถึงอากาศดีมากกกก พยากรณ์อากาศบอกเราว่า วันนี้ฟ้าจะดีทั้งวัน และพรุ่งนี้ ซึ่งเราได้จองที่นี้แค่วันเดียวเท่านั้น ถือว่าวัดใจกันไปเลย เพราะทริปนี้เราตั้งใจมาถ่ายรูปกันจริงๆจังๆ และโอกาสก็เข้าข้างพวกเรา !!






DAY 9 – 10 – 11 Prague ( Czech Republic )
และแล้วก็มาถึงเมืองที่เป็นจุดหมายหลักของทริปเรานะครับ นั้นก็คือเมืองปรากนั้นเอง เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐเช็ก และยังได้รับการประกาศให้ปรากเป็นเมืองมรดกโลกด้วย โหห แปลว่าเมืองแห่งนี้ต้องมีอะไรดีแน่นอนเลยทีเดียว หากพูดถึงเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมที่งดงาม สิ่งก่อสร้างเก่าแก่ที่โดดเด่น ถนนสายคดเคี้ยว รวมทั้งพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ และบรรยากาศโดยรอบแล้วถือว่า ปรากได้คะแนนไปเยอะพอสมควรเลยทีเดียว มาดูกันดีกว่านะครับ ว่าสถานที่ท่องเที่ยวนั้นมีที่ไหนน่าสนใจบ้าง

1. Charles Bridge (Karluv Most)
เป็นสะพานที่เก่าแก่ของเมืองปรากเลยทีเดียว ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือตอนเช้าที่จะได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่ดีและเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน ผ่อนคลายต้อนรับวันใหม่ที่สดใส เลยอยากจะแนะนำให้ตื่นเช้ากันครับ ประมาณ ตี 5:30 กำลังดี มาชมแสงแรกของวันกัน

1.1 Lesser Town Bridge Tower
สะพาน Charles Bridge ทั้งสองฝั่งจะมีหอคอย คนละฝั่งครับ ซึ่งสวยกันแตกต่างกันออกไป สามารถขึ้นไปชมวิวได้ ทั้ง 2 ฝั่งเลย เป็นหอคอยโบราณที่ดูสมบูรณ์มากๆเลยครับ


2. Old Town Square
“จัตุรัสเมืองเก่า” (Old Town Square) โดยจัตุรัสแห่งนี้ได้มีนโยบายให้เป็นศูนย์กลางสาธารณะที่สำคัญของกรุงปรากตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 และได้เป็นตลาด หลักตั้งแต่ศัตวรรษที่ 20 ตอนต้น ในยามค่ำคืนจะมีร้านอาหารเปิดเยอะแยะมากมาย เป็นสถานที่พักผ่อนและนั่งชิลเพลินๆ ยามเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน หากใครเดินชมเมืองทั้งวันแล้ว อ่อนล้า ก็สามารถมานั่งพักผ่อน ทานอาหาร และนั่งชิล จิบไวน์หรือเบียร์รสชาติเยื่ยมได้เลยครับ
3. Stronomical Clock (Prague Orloj) & Old Town Square
นาฬิกาดาราศาตร์ (The Astronomical Clock) ตั้งอยู่ตรงมุมทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจตุรัส และนักท่องเที่ยวจะได้ชมรูปปั้นตุ๊กตาสาวกของพระเยซูคริสต์ทั้งสิบสองคนปรากฎโฉมออกมาให้เห็นทุกๆชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 09:00 จนถึง 21:00 น. เป็นอีก 1 จุดที่ไม่ว่าใครมาเที่ยวแล้ว ต้องถ่ายรูปคู่เป็นที่ละลึกกับนาฬิกาโบราณเรือนนี้ครับ


4. St. Vitus Cathedral
เป็นวิหารที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่โดดเด่นที่สุดของพระราชวังปราก และเป็นโบสถ์คู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่โบราณกาลนับพันปี ตั้งอยู่กลางลานพระราชวัง ตัววังมีขนาดใหญ่โต จึงมองเห็นได้จากทุกทิศทุกทางจากในเมือง ยิ่งใหญ่จริงๆ สถานที่แห่งนี้เข้าชมด้านในฟรีครับ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ

5. Charles Bridge Tower
ช่วงเวลาสำคัญที่ห้ามพลาดเลยก็คือ การขึ้นมาชมวิวบนหอคอยโบราณครับ เพราะคุณจะสามารถมองเห็นวิว 360 องศารอบตัวคุณเลย แนะนำให้มาตอนพระอาทิตย์ตก จะเป็นช่วงเวลาที่สุดประทับใจมากๆเลยครับ




DAY 12 – 13 – 14 Budapest ( Hungary )
ถ้าถามว่า ชอบเมืองไหนที่ไปที่สุดในทริปยุโรปตะวันออกที่ผ่านมา ก็คงต้องขอบอกเลยว่า ชอบเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี่มากที่สุด โดยส่วนตัวแล้วเราเป็นคนชอบประวัติศาสตร์ เมืองแห่งนี้มีประวัติที่ชวนให้น่าศึกษา และเดินชมความสวยงาม และร่องรอยของประวัติศาสตร์ ซึ่งหากจะเล่าของเมืองแห่งนี้แล้ว ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองประเทศฮังการีเลือกที่จะอยู่ข้างเยอรมัน ซึ่งส่งผลให้บูดาเปสต์ได้รับความเสียหายอย่างมากจากระเบิดทำลายของฝ่ายพันธมิตร และในช่วงหลังสงครามยุติลง พรรคคอมมิวนิสต์ได้ก่อตั้งขึ้นและเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองของประเทศฮังการีเป็น ‘สาธารณรัฐประชาชน’ จนได้เกิด การปฏิวัติต่อต้านพวกคอมมิวนิสต์ในฮังการี่ การสู้รบดำเนินต่อไปเรือยๆ เพื่อต่อต้านนายพล สตาลิน แห่งกองทัพแดง (โซเวียต) การต่อสู้ก็ยังดำเนินต่อไป จนฝ้ายโวเวียตถอนทหารออกจากเมืองอย่างสมบูรณ์ ช่วงปี 1990
ปัจจุบันบูดาเปสต์เป็นเมืองที่เก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป มีประวัติศาสตร์อันยาวนานที่เกิดขึ้น ณ ดินแดนแห่งนี้ จึงเป็นอีกสถานที่นึงที่ควรค่าแก่การมาชม ความสวยงาม และ ร่องรอยของสงคราม ของเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี่ครับ

1. Fisherman’s Bastion
ป้อมปราการชาวประมง ตอนแรกก็คิดว่าป้อมอะไรทำไมชื่อมันแปลกๆ ปกติต้องเป็นป้อมทหาร แต่ที่จริงแล้ว เป็นป้อมปราการของชาวประมงในอดีต หันหน้าออกสู่แม่น้ำดานูป เนื่องจากสมัยก่อนใช้การสัญจรทางน้ำเป็นหลัก กิจการประมงในสมัยก่อนค่อนข้างเฟื่องฟู



2. Chain Bridge (Szechenyi lanchid)
สะพานเชน (Chain Bridge) หรือสะพานโซ่ เป็นหนึ่งในสะพานที่สวยที่สุดในยุโรปที่สร้างข้ามแม่น้ำดานูบจุดนี้เป็นจุด ไฮไลท์ของที่นี้เลยครับ เป็นสะพานที่มีความสวยงามอย่างมาก ที่สะพานเชนนี้มีรูปปั้นแกะสลักสิงห์โตด้วยที่สะพาน ในยามค่ำคืนสะพานนี้จะเปิดไฟสวยงาม และเมื่อยืนบนสะพานเราจะสามารถมองเห็น วิวจากสะพานสวยงดงามมากจริงๆ



3. St. Stephen’s Basilica
มาชมโบสถ์สวยๆของเมืองบูดาเปสต์กันดีกว่า สถานที่แห่งนี้คือโบสถ์ที่คู่บ้านคู่เมืองนี้ ใครที่เดินทางที่นี้ ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก ต้องจดลงลิสเดินทางทุกคนเลยทีเดียว บริเวณทางเข้าด้านหน้าเป็นทางเดินที่ขนาบข้างไปด้วยตึกทั้งสองด้าน มีร้านค้า ร้านอาหารให้บริการเยอะแยะมากมาย สามารถเห็นตัวโบสถ์เด่นอยู่ตรงกลางเลย ดูลึกลับน่าค้นหาดีนะครับ ผมเห็นครั้งแรกนี่ร้องว้าวววเลย





5. Central Market Hall
เป็นอีกจุดนึงที่ไม่ค่อยเห็นใครรีวิวเลย เมื่อมาเมืองแห่งนี้ก้อนเดินทางเราหาในเน็ต เจอว่าสถานที่แห่งนี้เป็นตลาดใหญ่ และ โบราณด้วย และมีความสวยงามทั้งภายนอกและภายใน และอีกอย่างเรามีเวลาอยู่ที่นี้ตั้ง 3 คืนเลย ไม่รอช้าเลยที่จะใส่เข้าไป ในคารางทริปที่ต้องไปด้วย




7. Buda Castle
หากไม่ได้ขึ้นมาชมวิวยามค่ำคืนของเมืองปูดาเปสแห่งนี้ก็เท่ากับมาไม่ถึง !! แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถชมวิวยามค่ำคืนได้ โดยไม่ต้องเสียตังเลยสักบาทก็คงจะไม่พ้น Buda Castle แห่งนี้ครับ ปราสาทแห่งนี้เปิดให้เข้าชมทั้งวันทั้งคืนเลย และมีวิวที่สวยอลังกาลมากกกกก ผมชอบและถูกใจมากๆเลยครับ บรรยากาศดีสุดๆ




ขอจบทริปการเดินทางแต่เพียงเท่านี้ครับ และก็หวังว่ารีวิวชุดนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผุ้ที่สนใจเดินทางไปยัง ยุโรปตะวันออก หรือกำลังจะวางแผนอยู่วาจะไปเที่ยวที่ไหนดี หากมีข้อชี้แนะ หรือคำถามอะไรก็สามารถตอบถามได้เลยนะครับ ขอบคุณทุกๆท่านที่ติดตามรีวิวชุดนี้จนจบครับ ขอบคุณมากๆเลยนะคร้าบบ
Fan Page : https://www.facebook.com/TwinTraveller
Personal Website : https://twintravellerblog.com